filter: null; fileterIntensity: null; filterMask: null; captureOrientation: 0; runfunc: 0; algolist: 0; multi-frame: 1; brp_mask:0; brp_del_th:0.0000,0.0000; brp_del_sen:0.0000,0.0000; motionR: 0; delta:1; bokeh:1; module: portrait;hw-remosaic: false;touch: (-1.0, -1.0);sceneMode: 12582912;cct_value: 0;AI_Scene: (-1, -1);aec_lux: 107.858826;aec_lux_index: 0;albedo: ;confidence: ;motionLevel: 0;weatherinfo: weather?Sunny, icon:0, weatherInfo:101;temperature: 35;zeissColor: bright;
รู้จักเมืองสระบุรีใน 5 นาที กับข้อมูลเมือง เรียบเรียงโดย WeCitizens ข้อมูลจากโครงการ CIAP เมืองสระบุรี, คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเทศบาลเมืองสระบุรี
เทศบาลเมืองสระบุรี ตั้งอยู่ในตำบลปากเพรียว อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี ได้ยกฐานะจากสุขาภิบาลเมืองสระบุรี ตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งเทศบาลเมืองสระบุรี เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2478 โดยมีพื้นที่เพียง 5 ตารางกิโลเมตร ครั้นปี 2517 มีการเปลี่ยนแปลงขยายเขตเทศบาลจากเดิมมาเป็น 20.13 ตารางกิโลเมตร จนถึงปัจจุบัน พื้นที่ 12,581.25 ไร่ ตั้งอยู่บนที่ราบสูง สูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลางที่ระดับความสูงประมาณ 15-16 เมตร มีแม่น้ำป่าสักไหลผ่านเขตเทศบาลเมืองฯ โดยไหลมาจากอำเภอมวกเหล็ก สู่อำเภอแก่งคอย อำเภอเมือง และอำเภอเสาไห้ ไปบรรจบแม่น้ำเจ้าพระยาที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่เดิมใช้เป็นเส้นทางสัญจรทางน้ำ ปัจจุบัน ประชาชนใช้อุปโภค และเทศบาลฯ นำน้ำดิบจากแม่น้ำป่าสักมาผลิตน้ำประปาบริการแก่ประชาชนในเขตเทศบาลฯ และนอกเขตรัศมี 1 กิโลเมตร
จังหวัดสระบุรีมีเนื้อที่ทั้งหมด 3,576,486 ตารางกิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 0.70 ของพื้นที่ประเทศ สภาพภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่มภาคกลางรวมกับอีกส่วนหนึ่งของทิวเขาดงพญาเย็น เป็นทำเลแห่งการเพาะปลูกด้วยได้รับความอุดมสมบูรณ์จากแม่น้ำสายหลัก คือแม่น้ำป่าสัก ตั้งอยู่ทางตะวันออกของภาคกลาง เสมือนด่านผ่านระหว่างภาคกลางกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีความสำคัญต่อภาคอุตสาหกรรมลำดับต้น ๆ ของประเทศไทย มีแหล่งท่องเที่ยวมากมายทั้งทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์โบราณสถาน โบราณวัตถุ แม้ภายในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองสระบุรีส่วนใหญ่ไม่มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแต่เป็นชุมทางเมืองผ่านสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ทั้งทางรถไฟ และรถยนต์ เทศบาลเมืองสระบุรีซึ่งเล็งเห็นความสำคัญในการท่องเที่ยวของจังหวัด จึงมีแนวคิดพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบ มุ่งเน้นในการเป็นศูนย์กลางข้อมูลการท่องเที่ยวของจังหวัดสระบุรี
ในช่วงสามปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2564-2567) แนวทางพัฒนาเทศบาลเมืองสระบุรี เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน นำพาเมืองสู่ความเป็นเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืน ด้วย 4 โมเดลคือ
1.) “ปากเพรียวปลอดภัย” ติดตั้งกล้องวงจรปิดทั่วเมือง 1,648 จุด ไฟฟ้าส่องสว่างทั่วซอย 6,400 จุด ตู้แจ้งเหตุฉุกเฉิน 8 จุด
2.) “ปากเพรียวสะอาด” จัดตั้งธนาคารขยะ จัดการขยะเฉลี่ยกว่า 75 ตันต่อวัน กล้องวงจรปิดเพื่อบริหารจัดการขยะ 20 จุด
3.) “ปากเพรียวน่าอยู่” สร้างและปรับปรุงถนนทั้งหมดกว่า 3,000 เมตร 22 เส้นทาง ปรับปรุงและซ่อมแซมระบบท่อส่งน้ำประปาเป็นระยะทางรวมกว่า 10 กิโลเมตร เปลี่ยนเกาะกลางถนนสุดบรรทัดเป็นพื้นที่จอดรถ
4.) “ปากเพรียวทันสมัย” จัดทำเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน “เทศบาลเมืองสระบุรี” เป็น One Stop Service 24 ชั่วโมงที่ประชาชนสามารถจ่ายค่าน้ำประปา ชำระค่าภาษี แจ้งเรื่องร้องเรียน และติดตามข่าวสารต่าง ๆ อันเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาชุมชนและสังคมเข้มแข็งด้วยการมีส่วนร่วม จัดทำแพลตฟอร์มข้อมูลเมือง (CDP-City Data Platform) และ GIS (Geographic Information System ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์)
มีจุดบริการสัญญาณ Wi-Fi 50 จุด ส่งผลให้เทศบาลเมืองสระบุรีได้รับใบประกาศเขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ จากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล และได้ดำเนินการประเมินเมือง “Smart City” ที่จะมีการประกาศผลในปีงบประมาณ 2568
29 ชุมชนของเทศบาลเมืองสระบุรี มี 29,156 ครัวเรือน ประชากร 57,135 คน (ข้อมูล ณ พฤษภาคม 2567) ประกอบด้วยประชากรในพื้นที่และประชากรแฝงมาจากจังหวัดทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก มาตั้งถิ่นฐานเพื่อประกอบอาชีพเนื่องจากตำบลปากเพรียวเป็นย่านใจกลางเมืองและศูนย์กลางของจังหวัด โดยตั้งบ้านเรือนประกอบกิจการค้าอยู่ตามเส้นทางคมนาคมสายหลักต่าง ๆ ได้แก่ ถนนพหลโยธิน ถนนมิตรภาพ ถนนสุดบรรทัด และถนนพิชัยรณรงค์สงคราม ส่วนผู้ประกอบอาชีพทางการเกษตรตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณเส้นทางแม่น้ำป่าสัก อย่างไรก็ดี สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสระบุรีรายงานสถานการณ์ทางสังคมจังหวัดสระบุรี ประจำปี 2567 ว่าในปี 2566 จังหวัดสระบุรีมีจำนวนประชากรรวม 638,826 คน เป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 125,766 คน คิดเป็นสัดส่วนผู้สูงอายุต่อประชากรทั้งหมด ร้อยละ 19.69 ใกล้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ ขณะที่ประชากรท้องถิ่นเทศบาลเมืองสระบุรีมีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง จากประชากร 59,263 คนในปี 2563 ลดลงเหลือ 57,817 คนในปี 2565 ส่งผลให้พื้นที่เทศบาลเมืองสระบุรีต้องเผชิญกับปรากฏการณ์เมืองหดตัว (Shrinking City) ทั้งด้านสังคมและเศรษฐกิจที่การค้าขายและการจับจ่ายใช้สอยลดลง
#เทศบาลเมืองสระบุรี #คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย #โปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่อย่างชาญฉลาดในระดับพื้นที่ #CIAP #บพท #wecitizens
“เมืองอาหารปลอดภัยไม่ได้ให้ประโยชน์แค่เฉพาะผู้คนในเขตเทศบาลฯแต่มันสามารถเป็นต้นแบบให้เมืองอื่น ๆ ที่อยากส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คนได้เช่นกัน” “งานประชุมนานาชาติของสมาคมพืชสวนโลก (AIPH Spring Meeting Green City Conference 2025) ที่เชียงรายเป็นเจ้าภาพเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา เน้นย้ำถึงทิศทางการพัฒนาเมืองสีเขียว…
“ทั้งพื้นที่การเรียนรู้ นโยบายเมืองอาหารปลอดภัย และโรงเรียนสำหรับผู้สูงวัยคือสารตั้งต้นที่จะทำให้เชียงรายเป็นเมืองแห่งสุขภาพ (Wellness City)” “กล่าวอย่างรวบรัด ภารกิจของกองการแพทย์ เทศบาลนครเชียงราย คือการทำให้ประชาชนไม่เจ็บป่วย หรือถ้าป่วยแล้วก็ต้องมีกระบวนการรักษาที่เหมาะสม ครบวงจร ที่นี่เราจึงมีครบทั้งงานส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค การรักษาเมื่อเจ็บป่วย และระบบดูแลต่อเนื่องถึงบ้าน…
“การจะพัฒนาเมือง ไม่ใช่แค่เรื่องสาธารณูปโภคแต่ต้องพุ่งเป้าไปที่พัฒนาคนและไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า การศึกษา” “แม้เทศบาลนครเชียงรายจะเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ของยูเนสโกแห่งแรกของไทยในปี 2562 แต่การเตรียมเมืองเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ว่านี้ เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นหลายสิบปี ในอดีต เชียงรายเป็นเมืองที่ห่างไกลความเจริญ ทางเทศบาลฯ เล็งเห็นว่าการจะพัฒนาเมือง ไม่สามารถทำได้แค่การทำให้เมืองมีสาธารณูปโภคครบ แต่ต้องพัฒนาผู้คนที่เป็นหัวใจสำคัญของเมือง และไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า ‘การศึกษา’…
“ถ้าอาหารปลอดภัยเป็นทางเลือกหลักของผู้บริโภคเชียงรายจะเป็นเมืองที่น่าอยู่กว่านี้อีกเยอะ” “นอกจากบทบาทของการพัฒนาชุมชนและสังคมสงเคราะห์ กองสวัสดิการสังคม เทศบาลนครเชียงราย ยังมีกลไกในการส่งเสริมเศรษฐกิจของพี่น้อง 65 ชุมชน ภายในเขตเทศบาลฯ โดยกลไกนี้ครอบคลุมการส่งเสริมสุขภาพ และช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมในทางอ้อมด้วยกลไกที่ว่าคือ ‘สหกรณ์นครเชียงราย’ โดยสหกรณ์ฯ นี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2560 หลักเราคือการสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน…
“แม่อยากปลูกผักปลอดภัยให้ตัวเองและคนในเมืองกินไม่ใช่ปลูกผักเพื่อส่งขาย แต่คนปลูกไม่กล้ากินเอง” “บ้านป่างิ้ว ตั้งอยู่ละแวกสวนสาธารณะหาดนครเชียงราย เราและชุมชนฮ่องลี่ที่อยู่ข้างเคียงเป็นชุมชนเกษตรที่ปลูกพริก ปลูกผักไปขายตามตลาดมาแต่ไหนแต่ไร กระทั่งราวปี 2548 สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองเชียงราย มาส่งเสริมให้ทำเกษตรปลอดภัย คนในชุมชนก็เห็นด้วย เพราะอยากทำให้สิ่งที่เราปลูกมันกินได้จริง ๆ ไม่ใช่ว่าเกษตรกรปลูกแล้วส่งขาย แต่ไม่กล้าเก็บไว้กินเองเพราะกลัวยาฆ่าแมลงที่ตัวเองใส่…
“วิวเมืองเชียงรายจากสกายวอล์กสวยมาก ๆขณะที่ผืนป่าชุมชนของที่นี่ก็มีความอุดมสมบูรณ์จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือป่าที่อยู่ในตัวเมืองเชียงราย” “ก่อนหน้านี้เราเป็นพนักงานบริษัทเอกชนที่ต่างจังหวัด จนเทศบาลนครเชียงรายเขาเปิดสกายวอล์กที่ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนดอยสะเก็น และหาพนักงานนำชม เราก็เลยกลับมาสมัคร เพราะจะได้กลับมาอยู่บ้านด้วย ตรงนี้มีหอคอยชมวิวอยู่แล้ว แต่เทศบาลฯ อยากทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ก็เลยต่อขยายเป็นสกายวอล์กอย่างที่เห็น ซึ่งสุดปลายของมันยังอยู่ใกล้กับต้นยวนผึ้งเก่าแก่ที่มีผึ้งหลวงมาทำรังหลายร้อยรัง รวมถึงยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนภูเขา ในป่าชุมชนผืนนี้ จริง…