มนตรี นามแฮด / เพิ่มยศ บำรุงศรี / จิรพัส รอดศรีสมุทร / ธิติสวรรค์ แตงเหลือง / อัครเดช ขวัญเมฆ
“นอกจากครูมนตรี พวกเราไม่ได้สอนวิชาสายเทคโนโลยีเลยนะครับ คนหนึ่งสอนภาษาไทย คนหนึ่งสอนภาษาอังกฤษ คนหนึ่งสอนดนตรี แต่จุดร่วมที่เรามีเหมือนกันคือชอบเล่นเกม และอยากช่วยพัฒนาทักษะ และความรับผิดชอบให้นักเรียนผ่านการเล่นเกม
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2565 ครูกระชายเป็นคนแรกที่พาเด็ก ๆ ไปแข่งขันอีสปอร์ตในงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ ตอนนั้นเรายังไม่รู้หรอกว่า มันจะพาเราไปถึงจุดไหน รู้แค่ว่าเด็ก ๆ สนใจ และเราเองก็อยากเข้าใจมันให้ลึกกว่านี้ พอได้เข้ามาเรียนรู้จริง ๆ เรากลับพบว่า เกมไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ อีกต่อไป แต่มันคือศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนาเทคโนโลยีเกือบทุกอย่าง คอมพิวเตอร์แรง ๆ มือถือจอรีเฟรชเรตสูง ซีพียูเร็ว ๆ แรมเยอะ ๆ ล้วนเกิดจากความต้องการของโลกเกมทั้งนั้น เกมจึงเป็นแรงขับของนวัตกรรมของโลกอย่างแท้จริง
ความที่โรงเรียนเทศบาล 6 มีชื่อเสียงด้านดิจิทัล จากที่ครูมนตรีได้บุกเบิกไว้ ทั้งด้านโค้ดดิ้ง และโรโบติกส์ รวมถึงมีห้องเรียนดิจิทัลที่ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้แก่เด็ก ๆ พอเทศบาลฯ ตัดสินใจขับเคลื่อนเรื่องอีสปอร์ตในสถานศึกษา โรงเรียนเราเลยเป็นที่แรกที่นำร่อง
เราจึงรวมตัวกันเพื่อช่วยกันพัฒนาหลักสูตรอีสปอร์ต โดยการค้นคว้างานวิจัยจากต่างประเทศ และออกแบบหลักสูตรให้สอดคล้องกับผู้เรียนโดยเริ่มที่มัธยมต้นและมัธยมปลายก่อน จากนั้นก็ส่งหลักสูตรไปให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณา
ขณะเดียวกัน เมื่อสมาคมอีสปอร์ตจังหวัดนครสวรรค์ก่อตั้ง เขาก็ส่งพวกเราไปอบรมเป็นโค้ชและกรรมการตัดสินกีฬาอีสปอร์ตอย่างจริงจัง ก่อนที่หลักสูตรนี้จะได้รับการอนุมัติในปี 2566 พอปีต่อมา เราก็เปิดอีสปอร์ตเป็นวิชาเลือกอย่างเป็นทางการ โดยเราเป็นโรงเรียนรัฐแห่งแรกในประเทศที่มีหลักสูตรนี้
เราไม่ได้ตั้งเป้าจะสร้างนักกีฬาอีสปอร์ต แต่เป็นการส่งเสริมให้เกิดบุคลากรในนิเวศอีสปอร์ตและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ทั้งโค้ช กรรมการ ผู้จัดการแข่งขัน แคสเตอร์พากย์เกม คนรับหน้าที่สตรีมมิงถ่ายทอดสด และเทคนิคเชียน รวมถึงบุคลากรในสายเทคโนโลยีและสื่ออื่น ๆ เช่น ดิจิทัลออร์แกไนเซอร์ หรือคอนเสิร์ต
เด็กที่เข้าเรียนหลักสูตรนี้จึงไม่ได้แค่เล่นเกม แต่พวกเขาได้ฝึกปฏิบัติจริง ผ่านการจัดการแข่งขันที่เราทำร่วมกับสมาคมกีฬาอีสปอร์ตของนครสวรรค์ รวมถึงเทศบาลฯ และ บพท. ยังได้สนับสนุนให้มีการจัดตั้งห้องเรียนอีสปอร์ต เปิดให้เด็กนักเรียนของโรงเรียนเราเอง และโรงเรียนในสังกัดมาใช้เป็นที่ฝึกซ้อม และเรียนรู้เกี่ยวกับระบบต่าง ๆ ของเกม
พวกเขาจะได้เรียนรู้ตั้งแต่จัดทีม วางระบบ ไปจนถึงลงสนามจริง ซึ่งพอมีการแข่งขันระดับจังหวัดที่ไหน พวกเราจะรับหน้าที่เป็นกรรมการ ขณะที่เด็ก ๆ ก็จะได้เป็นทีมงานเบื้องหลังจัดการแข่งขัน รวมถึงบางคนยังเป็นอนุกรรมการตัดสินเกมด้วย
ทุกอย่างเราวางไว้เพื่อให้เด็กได้เจอของจริง เราไม่อยากให้มันจบแค่ในห้องเรียน เพราะเรารู้ว่าการเรียนรู้ที่แท้จริงต้องผ่านประสบการณ์ ยิ่งเด็กได้ลงมือทำเอง ยิ่งจำแม่น และที่สำคัญคือพวกเขาจะเริ่มเห็นภาพว่าทักษะที่เรียนไปนั้น สามารถเอาไปใช้ทำมาหากินในอนาคตได้
ในมุมของครู เราหวังให้สิ่งนี้ช่วยทำให้เขามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จากที่ผ่านมา เราเคยติดตามเด็กที่จบการศึกษาไป บางคนก็ไปทำงานใช้แรงงานเพราะไม่มีทักษะอื่น เราเลยอยากเปลี่ยนตรงนี้ อยากให้เขาได้เรียนรู้ทักษะที่ไปต่อได้ในชีวิตจริง จนสามารถมีทางเลือกในอาชีพการงานอย่างมั่นคง
เราเชื่อว่าถ้าเราทำต่อเนื่อง สร้างระบบนิเวศให้แข็งแรง ไม่เพียงเด็กในโรงเรียนเรา แต่ยังส่งผลต่อเด็กในจังหวัด รวมถึงการทำให้นครสวรรค์จะกลายเป็นเมืองต้นแบบด้านอีสปอร์ตของภาคเหนือ
ไม่ต้องรอกรุงเทพฯ ไม่ต้องรอพัทยา หรือภูเก็ต ถ้าในอนาคตใครพูดถึง ‘อีสปอร์ตในภาคกลางตอนบน’ เราอยากให้ทุกคนนึกถึงนครสวรรค์เป็นชื่อแรก และนั่นแหละครับ คือสิ่งที่เราทำอยู่ทุกวัน”
#เทศบาลนครนครสวรรค์ #นครสวรรค์นครอีสปอร์ต #มหาวิทยาลัยนเรศวร #หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาพื้นที่ #บพท #pmua #โปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่การเป็นเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด #ciap #wecitizens
ชวนอ่าน WeCitizens เมืองเชียงราย : เมืองนวัตกรรมการเกษตร Ebook ได้ที่ https://anyflip.com/jnmvd/iyvl/ Download PDF File : https://drive.google.com/.../1mQO8ZR9GTik02hfUPdS.../view... บอกเล่าเรื่องราวมุมมองเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (Livable…
คนนครวัย 30 ปีขึ้นไปน่าจะคุ้นกับร้านหนังสือ “นาคร-บวรรัตน์” บนถนนราชดำเนิน ย่านท่าวัง ที่นี่คือร้านหนังสืออิสระที่เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมอ่าน-เขียน และแสดงผลงานศิลปะ รวมถึงเป็นศูนย์รวมของนักเขียนและศิลปิน ทั้งจากกลุ่มวรรณกรรม “นาคร” เหล่านักเขียนรางวัล และศิลปินแห่งชาติที่แวะเวียนมาอยู่เสมอ จนกลายเป็นแรงขับสำคัญที่ทำให้เมืองนครมีชื่อในฐานะเมืองแห่งนักเขียนและศิลปิน อดีตร้านหนังสือแห่งนี้ตั้งอยู่ภายใน…
สมัยก่อนพ่อเป็นนายหนังตะลุงที่หวงวิชามากจนมีโอกาสเข้าเฝ้าในหลวง ร.9คำตรัสของพระองค์ท่าน เปลี่ยนความคิดพ่อไปอย่างสิ้นเชิง “สมัยก่อน นายหนังหรือผู้แสดงหลักในหนังตะลุง ส่วนใหญ่เขาจะหวงวิชามากนะครับ มันเหมือนศิลปะการแสดงที่ถ่ายทอดกันอย่างจำกัด และนายหนังแต่ละคนก็จะมีศาสตร์เฉพาะตัวในการแสดงเช่นเดียวกับคุณพ่อของผม (สุชาติ ทรัพย์สิน) แกก็เป็นคนหวงวิชามาก ๆ ใครมาขอให้สอนตอกหนังหรือเชิดหุ่นนี่ยาก กระทั่งปี 2527…
เมืองเรามีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีความพร้อม แต่พื้นที่ระดับชุมชนที่ชาวบ้านได้มาจัดกิจกรรมร่วมกัน แบบที่ไม่ต้องใช้พื้นที่ถนนสาธารณะน่ะ ยังไม่มี ถ้ามีจะดีมาก ๆ “ครอบครัวพี่แต่เดิมเป็นชาวนาอยู่นอกเขตเทศบาล กระทั่งพี่ชายและพี่สาวสอบติดโรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช แม่ก็เลยตัดสินใจย้ายเข้ามาทำงานในเมืองแม่มาปลูกบ้านอยู่แถวถนนพัฒนาการคูขวางราวปี 2521 ก่อนหน้าที่เขาจะตัดถนนเป็น 4 เลน ย่านที่เราอยู่ค่อนข้างเสื่อมโทรม เหมือนขยะใต้พรมของเมือง…
การจะทำให้เมืองเราเป็นเมืองอัจฉริยะปัจจัยสำคัญที่ต้องมีคือการมีโรงเรียนที่ตอบโจทย์การศึกษาด้านเทคโนโลยี “เวลาพูดถึงโรงเรียนในสังกัดเทศบาล หรือกระทั่งโรงเรียนวัดเนี่ย คนส่วนมากมักนึกถึงการเป็นโรงเรียนขยายโอกาส หรือทางเลือกสุดท้าย ไม่ใช่ทางเลือกหลักของผู้ปกครองส่วนใหญ่นักอย่างไรก็ตาม กับโรงเรียนทั้ง 8 แห่งในสังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโรงเรียนวัดทั้งหมดด้วย กลับแตกต่างออกไป เพราะที่นี่กลายเป็นโรงเรียนที่เด็ก ๆ ในนครต้องสอบแข่งขันเพื่อเข้าเรียน กลายเป็นโรงเรียนชั้นนำในกลุ่มปฐมวัยไปสิ่งนี้ต้องยกเครดิตให้นายกเทศมนตรีสมนึก…
แม้เราจะพึ่งพาเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือหลักแต่แก่นสารของมันคือการคิดนโยบายที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนหัวใจสำคัญจึงไม่ใช่เทคโนโลยี แต่เป็นผู้คน “หลังเรียนจบผมก็กลับมานครบ้านเกิด เข้าทำงานเป็นลูกจ้างเทศบาล ก่อนจะไต่เต้าขึ้นมาเรื่อย ๆ จนเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์แผนและนโยบายในปัจจุบันสี่ปีที่แล้ว ตอน ดร.โจ (กณพ เกตุชาติ) หาเสียงเพื่อรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราชสมัยแรก ท่านได้เสนอนโยบายเรื่องเมืองอัจฉริยะด้วยการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อทำให้เมืองน่าอยู่ พอท่านได้รับเลือกเข้ามา บทบาทของผมคือการช่วยท่านเขียนแผนดังกล่าวผมได้เรียนรู้จาก…