“ผมเป็นคนลำพูน และชอบทำกิจกรรมนอกห้องเรียนมาตั้งแต่เด็ก ปัจจุบันเป็นประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดลำพูน ควบคู่ไปกับกำลังศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
จากประสบการณ์การทำงานในสภาฯ ทำให้ผมเห็นว่า เยาวชนลำพูนมีศักยภาพที่หลากหลาย แต่สิ่งที่ขาดไปคือเวทีที่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงความสามารถและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากการสนับสนุนจากโรงเรียนหรือโครงการของภาคเอกชน
ปี 2567 พี่อร (ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์ นักวิจัยจากสถาบันวิจัยพหุศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่) ชวนผมร่วมทำงานในโครงการวิจัยเมืองแห่งการเรียนรู้ (Learning City) ซึ่งเน้นการขับเคลื่อนเยาวชนลำพูนสู่การเป็นพลเมืองแห่งการเรียนรู้ของ UNESCO ผมเห็นว่านี่เป็นโอกาสที่ดีในการส่งเสริมศักยภาพของเยาวชนในบ้านเกิด และทำให้อัตลักษณ์ของเมืองลำพูนเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นหนึ่งในผลลัพธ์สำคัญของโครงการนี้คือการจัด ‘Youth Festival: เทศกาลเยาวชนนักจัดการเมือง’ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2567 ที่ศูนย์การค้าแจ่มฟ้า มอลล์ งานนี้เปิดพื้นที่ให้เยาวชนได้ร่วมกันกำหนดทิศทางการนำเสนอจุดเด่นของลำพูน ผ่านแนวคิด ‘อาหาร อาคาร อาภรณ์’ ซึ่งทำให้พวกเราได้กลับไปศึกษาเรื่องราวของท้องถิ่นอย่างลึกซึ้ง พร้อมทั้งเรียนรู้แนวทางการพัฒนาเมืองที่ยั่งยืน
การจัดเทศกาลนี้ทำให้ผมและทีมงานสภาฯ มองเห็นความสำคัญของเวทีที่เปิดโอกาสให้เยาวชนเป็นผู้กำหนดทิศทางของบ้านเกิดตัวเอง มันไม่ใช่แค่การเรียนรู้เกี่ยวกับเมืองลำพูนเท่านั้น แต่ยังเป็นการพัฒนาทักษะการจัดการและความเป็นผู้นำ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่ออนาคตของพวกเราทุกคน
เมื่อพี่อรริเริ่มโครงการเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด ร่วมกับเทศบาลเมืองลำพูน ทีมงานสภาเด็กฯ ก็ตัดสินใจเข้าร่วม สิ่งที่ทำให้ผมสนใจเป็นพิเศษคือแนวคิด ‘โมเดลเทศกาลบนฐานวัฒนธรรม’ ปัจจุบันเทศบาลเมืองลำพูนมีความร่วมมือกับชุมชนในการจัดเทศกาลใหญ่ เช่น ‘เทศกาลโคมแสนดวง’ ซึ่งเป็นเทศกาลที่มีชื่อเสียง แต่ที่ผ่านมาบทบาทของเยาวชนในเทศกาลเหล่านี้ยังจำกัดอยู่แค่การแสดงศิลปะการแสดง หรือเป็นผู้เข้าร่วมกิจกรรม ในขณะที่หากเยาวชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการออกแบบเทศกาล เทศกาลเหล่านี้อาจมีมิติที่หลากหลายขึ้น และช่วยสร้างความเชื่อมโยงระหว่างคนรุ่นใหม่กับวัฒนธรรมดั้งเดิมได้ดีขึ้น
ผมเชื่อว่าหากเยาวชนมองเห็นศักยภาพของบ้านเกิดตัวเอง พวกเขาอาจเลือกที่จะกลับมาทำงานหรือสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ให้กับลำพูน แทนที่จะมองว่าต้องออกไปหาความเจริญจากที่อื่นเพียงอย่างเดียว
ใครว่าการพัฒนาเมืองเป็นเรื่องของผู้ใหญ่เท่านั้น? ผมเชื่อว่าการพัฒนาเมืองคือการร่วมกันฝันถึงอนาคตที่ดีขึ้น และเยาวชนต้องเป็นกำลังสำคัญในกระบวนการนี้ ไม่ใช่แค่ในฐานะผู้รับฟัง แต่ต้องเป็นผู้ร่วมคิด ร่วมทำ เพื่อให้ลำพูนเป็นเมืองที่คนรุ่นใหม่อยากอยู่และเติบโตไปพร้อมกับมัน”
#สภาเด็กและเยาวชนจังหวัดลำพูน #เทศบาลเมืองลำพูน #มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ #CIAP #โปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่การเป็นเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด #บพท #pmua #wecitizens
“พื้นเพของครอบครัวผมเป็นนักการเมืองและนักธุรกิจ คุณตาของผม สันติ์ เทพมณี เป็นอดีตรัฐมนตรี สส. และ สว. ของจังหวัดลำพูน พ่อของคุณตา - สุข เทพมณี ก็เป็นอดีตนายกเทศมนตรีเมืองลำพูน (พ.ศ.…
“ตอนเด็ก ๆ เราแทบไม่ได้ผูกพันกับลำพูน บ้านเกิดเลยนะ เราถูกส่งไปเรียนที่เชียงใหม่ เรียนมหาวิทยาลัยที่ขอนแก่น จบมาก็ไปทำงานกรุงเทพฯ อยู่หลายปี ระหว่างนั้นก็กลับมาเยี่ยมแม่บ้าง ไป ๆ มา ๆ ก็เริ่มรู้สึกเป็นห่วงเขา สุดท้ายเลยตัดสินใจย้ายกลับมาทำงานในนิคมอุตสาหกรรมที่ลำพูนถึงพ่อแม่เราจะรับราชการครู…
ความสําเร็จของเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดบนฐานงานวิจัยและนวัตกรรม บพท. คุณสมศักดิ์ ลามอ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครปากเกร็ด (ดำรงตำแหน่ง มีนาคม 2567 - มีนาคม 2568) มุ่งยกระดับการบริการประชาชนด้วยนวัตกรรมและยุทธศาสตร์ทันสมัย เทศบาลนครปากเกร็ด ซึ่งเป็นเทศบาลขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ติดต่อกับกรุงเทพมหานคร มีประชากรในความดูแลกว่า 400,000…
ก้าวสู่ความสําเร็จของเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดบนฐานงานวิจัยและนวัตกรรม บพท. | ดร.นิมิตร จิวะสันติการ นายกเทศมนตรีนครลำปาง (ดำรงตำแหน่ง มีนาคม 2564- มีนาคม 2568) “เทศบาลนครลำปางในปี 2567-2568 เราได้ร่วมงานกับ บพท. ในการทำงานร่วมกันเพื่อช่วยบริหารจัดการเมืองของเราให้เดินหน้าสู่การเป็นเมืองน่าอยู่ ซึ่งก็ตรงกับแนวทางที่เรากำลังทำกันอยู่ที่ ด้วยเป้าหมายสิ่งที่เราปรารถนาที่สุดคือ จะทำให้เมืองของเราเป็นเมืองที่สมบูรณ์แบบ…
พลังคน พลังโคมลำพูน: เมืองเล็ก ๆ ที่เปี่ยมไปด้วยพลังสร้างสรรค์ แม้ ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์ เป็นคนเชียงใหม่ เธอก็หาใช่เป็นคนอื่นคนไกลสำหรับชาวลำพูนเพราะก่อนจะเข้ามาขับเคลื่อนงานวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดกับเทศบาลเมืองลำพูน เธอได้ทำวิจัยเกี่ยวกับเมืองแห่งนี้มาหลายครั้ง โดยเฉพาะโครงการขับเคลื่อนเยาวชนเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเป็นพลเมืองของเมืองแห่งการเรียนรู้ของ UNESCO ในปี 2566-2567 - นั่นล่ะ…
“เป็นสิ่งวิเศษที่สุด ที่ผ้าไหมของจังหวัดลำพูนได้ปรากฏต่อสายตาผู้คนทั้งในและต่างประเทศ ทั้งเมื่อครั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงให้การส่งเสริม และทรงฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ และกระทั่งในปัจจุบัน สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 10 ก็ทรงส่งเสริมผ้าไหมไทย และฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญเช่นกัน ดิฉันเป็นคนลำพูน มีความภูมิใจในงานหัตถศิลป์การทอผ้าไหมยกดอกนี้มาก ๆ และตั้งใจจะรักษามรดกทางวัฒนธรรม ทำหน้าที่ส่งต่อถึงคนรุ่นต่อไป…