“ครั้งหนึ่งผมมีโอกาสไปดูงานที่โรงเรียนในประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลาหนึ่งเดือน สิ่งที่ได้เห็นคือการพัฒนาการเรียนรู้ของเด็ก ๆ ที่เกิดจากความร่วมมือของครอบครัว โรงเรียน และชุมชน รวมถึงการบูรณาการศาสตร์วิชาต่าง ๆ เข้าด้วยกัน โดยใช้ศิลปะเป็นสื่อขับเคลื่อน แนวทางนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ผมกลับมาพัฒนาการเรียนการสอนที่โรงเรียนผาสุกฯ ที่ผมสอนอยู่
ผมมักจะบอกนักเรียนเสมอว่า เราไม่ได้เรียนศิลปะเพื่อที่จะเป็นศิลปิน แต่การได้เรียนศิลปะจะทำให้มีความคิดที่เป็นระบบ รู้จักวิเคราะห์ มีความอ่อนโยน และเข้าใจคนอื่น ซึ่งมันเป็นทักษะสำคัญในการดำรงชีวิต
พื้นเพผมไม่ใช่คนปากเกร็ด แต่ก็ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มาจะ 10 ปีแล้ว เรียกได้ว่าเป็นคนที่นี่ได้เต็มปาก ปากเกร็ดเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยศักยภาพด้านศิลปวัฒนธรรม ตั้งแต่วัฒนธรรมมอญ ไปจนถึงศิลปะเครื่องปั้นดินเผาของเกาะเกร็ด ไม่นับรวมการมีสถานที่ที่เอื้อให้เกิดการเข้าถึงและเข้าใจในสุนทรียะทางศิลปะ ไม่ว่าจะเป็นเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่บรรยากาศดีมาก ๆ หรือวัดกู้ (พระนางเรือล่ม) ที่มีพระนอนและจิตรกรรมฝาผนังที่งดงาม
ผมพยายามนำสิ่งเหล่านี้มาบูรณาการกับการเรียนรู้ของเด็ก ๆ เช่น การให้เด็กออกแบบและสร้างสรรค์หุ่นละครเงาที่เล่าเรื่องราวท้องถิ่น ไปจนถึงการบอกเล่าถึงวิธีการรับมือกับปัญหาฝุ่นควัน ซึ่งปัจจุบันกลายมาเป็นหนึ่งในสื่อการเรียนรู้ที่พวกเราทำกันเอง หรือการทดลองพัฒนาเนื้อดินจากเกาะเกร็ดสำหรับเครื่องปั้นดินเผา เป็นต้น ขณะเดียวกัน เด็ก ๆ ในโรงเรียนของเราก็มีความสามารถ มีตัวแทนนักเรียนของเราหลายคนสามารถคว้ารางวัลศิลปหัตถกรรมระดับประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่คณะครูของเราภาคภูมิใจอย่างมาก
ผมเห็นด้วยอย่างมากที่ทีมนักวิจัยโครงการเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดของ บพท. ให้ความสนใจในการนำเทคโนโลยี Metaverse เข้ามาเป็นสื่อการเรียนรู้สำหรับรับมือภัยพิบัติทางธรรมชาติสำหรับเด็กนักเรียนในโรงเรียนสังกัดเทศบาล
อย่างไรก็ดี ผมมีข้อเสนอว่า ควรเสริมไปพร้อมกับที่ให้พวกเขาได้เรียนรู้เทคโนโลยี การให้พวกเขาเข้าใจกลไก และกระบวนการทำงานของสิ่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างพื้นฐานความคิดที่มั่นคงให้กับเด็ก ๆ และนำสองสิ่งนี้มาสอดประสานเข้าด้วยกัน สิ่งนี้จะช่วยต่อยอดด้านการเรียนรู้ให้กับพวกเขา ไปสู่พลเมืองที่มีคุณภาพ ไม่ว่าพวกเขาจะประกอบอาชีพอะไรในอนาคต”
#เทศบาลนครปากเกร็ด #CIAP #โปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่การเป็นเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด #PMUA #บพท #Wecitizens
เมื่อความเสี่ยงจากภัยพิบัติกลายมาเป็นต้นทุนของเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด จริงอยู่ที่การเป็นเมืองติดแม่น้ำซึ่งเผชิญกับความเสี่ยงด้านอุทกภัยจะดูไกลห่างจากความเป็น “เมืองน่าอยู่” กระนั้น เทศบาลนครปากเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ก็นำสิ่งที่ถูกมองว่าเป็นจุดด้อย แปรเปลี่ยนเป็นต้นทุนสำคัญในการพัฒนาเมืองอย่างชาญฉลาด โครงการบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด และการพัฒนาความเป็นเลิศในการบริหารจัดการความเสี่ยงอุทกภัย เป็นโครงการที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างเทศบาลนครปากเกร็ดและบพท. ในการจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลเมือง (City Data…
น้ำเป็นทั้งพรและภัยของผู้คนในเทศบาลนครปากเกร็ด เมืองริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเมืองนี้เติบโตมาจากหมู่บ้านชาวสวนในสมัยอยุธยา โดยสายน้ำไม่เพียงหล่อเลี้ยงชีวิต แต่ยังหลอมรวมวัฒนธรรมและภูมิปัญญาของชาวไทย จีน และมอญ เข้าด้วยกัน กลายเป็นอัตลักษณ์และรากฐานสำคัญของการพัฒนาเมืองจนถึงปัจจุบันแต่ดังที่กล่าว น้ำก็เป็นภัยคุกคามที่ไม่อาจมองข้าม ในพื้นที่ 36 ตารางกิโลเมตรของเทศบาลนครปากเกร็ด แนวริมน้ำยาวกว่า 15 กิโลเมตรคือแนวหน้าที่ชุมชนหลายสิบแห่งต้องเผชิญกับมวลน้ำมหาศาลของเจ้าพระยา…
WeCitizens สนทนากับ รศ. ดร.สมพร คุณวิชิต หัวหน้าโครงการวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด เทศบาลนครปากเกร็ด ถึง “โครงการบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดและการพัฒนาความเป็นเลิศในการบริหารจัดการความเสี่ยงอุทกภัยในพื้นที่เทศบาลนครปากเกร็ด” ที่เขาขับเคลื่อน ว่าด้วยจุดเริ่มต้นและเป้าหมายในการทำให้ปากเกร็ดเป็นเมืองต้นแบบของการจัดการภัยพิบัติในระดับนานาชาติ เทศบาลนครปากเกร็ดมีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน และการจัดการน้ำท่วมส่งผลต่อการทำปากเกร็ดให้เป็นเมืองน่าอยู่ได้อย่างไร ไปติดตามกัน ก่อนอื่น…
“ป้าเป็นคนอ่างทอง แต่ย้ายมาเรียนที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ประถมฯ พอเรียนจบ ไม่อยากอยู่เมืองที่พลุกพล่าน น้ำท่วมบ่อย บ้านแพง เลยมองหาชานเมืองที่สงบและราคาจับต้องได้ จนมาเจอปากเกร็ด ชุมชนประชานิเวศน์ 2 ระยะ 3 เป็นบ้านจัดสรรของการเคหะ ตั้งอยู่เยื้อง…
“คลองในพื้นที่ปากเกร็ดเป็นทั้งคลองดั้งเดิมและคลองที่ขุดขึ้นใหม่ ปัจจุบันมีทั้งหมด 17 คลอง รวมถึงลำราง ลำกระโดง และคูน้ำจำนวนหนึ่ง การดูแลพื้นที่ดังกล่าวเป็นงานที่ซับซ้อน เนื่องจากคลองบางแห่งมีปัญหาด้านกายภาพ ส่งผลกระทบต่อการไหลของน้ำและการป้องกันน้ำท่วมคลองบางพูดเป็นหนึ่งในคลองที่มีปัญหาหนักที่สุด โดยเฉพาะบริเวณใกล้ถนนแจ้งวัฒนะ เนื่องจากคลองมีลักษณะคดเคี้ยวและอยู่ติดกับบ้านเรือนประชาชน อีกทั้งประตูระบายน้ำบางแห่งยังชำรุด ส่งผลให้การควบคุมระดับน้ำเป็นไปได้ยาก เราจึงต้องเฝ้าระวังคุณภาพน้ำอย่างใกล้ชิด…
“ผมเป็นคนสุพรรณบุรี มาได้ภรรยาที่เกาะเกร็ด เลยย้ายมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่วัยรุ่น ทำอาชีพขับเรือรับส่งคนจากเกาะเกร็ดไปปากเกร็ดหรือเมืองนนท์บ้าง รับ-ส่งตามท่าเรือต่าง ๆ คล้ายกับวินมอเตอร์ไซค์นี่แหละมีเรือรับส่งทั้งหมด 14 ลำ คนขับทุกคนเป็นคนเกาะเกร็ด ในวันธรรมดา คนบนเกาะส่วนหนึ่งเขาจะเลือกเดินทางเข้าเมืองด้วยการนั่งเรือข้ามฟากที่ท่าวัดสนามเหนือ แล้วก็นั่งรถเมล์ หรือรถสาธารณะอื่น ๆ…