“เมืองปากเกร็ดมีความเป็นเมืองพหุวัฒนธรรม ซึ่งนอกจากวัฒนธรรมเก่าที่คนโหยหาและมีราคา เรายังมองเห็นประสบการณ์บางอย่างที่คนรุ่นเก่ามีอยู่ และดูมีประโยชน์กับกลุ่มคนใหม่ ๆ โดยต้องหาวิธีจัดการองค์ความรู้นั้นมาใช้ให้ได้ เราจะพาวิธีคิดแบบพิเศษของคนกลุ่มนั้นมาสู่ Digital Workflow ได้อย่างไร ในแบบที่คนรุ่นหลังจะนำไปใช้งานต่อยาว ๆ
อย่างแรกไปดูก่อนว่าใครเชี่ยวชาญในด้านอะไร แล้วถอดมาเป็น Knowledge Management (การจัดการความรู้ – ผู้เรียบเรียง) แล้วนำไปส่งต่อให้เมือง อย่างเมื่อปี 2554 ทำไมน้ำถึงไม่ท่วมเมือง เขามีวิธีคิดจัดการอย่างไร ทำไมวางกระสอบทรายแบบนี้ เตรียมการอะไรบ้าง พวกนั้นไม่มีในตำรา แต่มีอยู่ในคนทำงานเหล่านี้
หน้าที่ของเราคือหาโซลูชันที่เหมาะสมกับเมือง ทำตัวเหมือนล่ามที่ดี เพื่อให้รู้ว่าเมืองต้องการอะไร มีปัญหาอะไรอยู่ เรามีทักษะอะไรที่จะมาใช้แก้ปัญหาเมืองได้
อย่างไรก็ดี ปากเกร็ดก็ยังติดปัญหาสำคัญคือ แม้เราจะสามารถเก็บข้อมูลเมืองได้มหาศาล แต่เรายังขาดวิธีการนำข้อมูลดังกล่าวไปใช้ต่ออย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดปีที่ผ่านมา (2567) เราจึงร่วมกับทีมนักวิจัยหาวิธีสร้าง Data Culture (วัฒนธรรมที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล – ผู้เรียบเรียง) เพื่อให้ผู้บริหารสามารถใช้ข้อมูลที่มีในการออกแบบนโยบาย ไปจนถึงการจัดการเมือง ให้กลายมาเป็นแพลตฟอร์มการทำงานไปเลย คือต่อให้ในอนาคตทีมบริหารรุ่นใหม่อาจจะไม่เก่งเท่าปัจจุบัน แต่พวกเขาก็ยังมีข้อมูลและบทเรียนจากคนรุ่นก่อนที่พร้อมสนับสนุนการตัดสินใจได้อยู่ นั่นทำให้การบริหารเมืองเป็นเรื่องง่าย
เมื่อผสานฐานข้อมูลจากการส่งต่อบทเรียนกับคนรุ่นก่อนหน้า เข้ากับเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมในการรับมือกับภัยพิบัติใหม่ ๆ ผมคิดว่าปากเกร็ดจะเป็นเมืองที่มีความพร้อมต่อภาวะโลกรวนที่เป็นอยู่ในตอนนี้ และความพร้อมนี้แหละที่กระตุ้นให้ผู้คนอยากมาลงทุนในเมืองของเรามากขึ้น
นั่นล่ะครับ ความสำเร็จในการรับมือกับภัยพิบัติ มันส่งผลโดยตรงต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของเมืองอย่างปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ”
ณัฐพงศ์ ศรีสว่าง
นักวิชาการคอมพิวเตอร์ชำนาญการพิเศษ เทศบาลนครปากเกร็ด
#เทศบาลนครปากเกร็ด #CIAP #โปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่การเป็นเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด #PMUA #บพท #Wecitizens
ชวนอ่าน WeCitizens เมืองเชียงราย : เมืองนวัตกรรมการเกษตร Ebook ได้ที่ https://anyflip.com/jnmvd/iyvl/ Download PDF File : https://drive.google.com/.../1mQO8ZR9GTik02hfUPdS.../view... บอกเล่าเรื่องราวมุมมองเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (Livable…
คนนครวัย 30 ปีขึ้นไปน่าจะคุ้นกับร้านหนังสือ “นาคร-บวรรัตน์” บนถนนราชดำเนิน ย่านท่าวัง ที่นี่คือร้านหนังสืออิสระที่เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมอ่าน-เขียน และแสดงผลงานศิลปะ รวมถึงเป็นศูนย์รวมของนักเขียนและศิลปิน ทั้งจากกลุ่มวรรณกรรม “นาคร” เหล่านักเขียนรางวัล และศิลปินแห่งชาติที่แวะเวียนมาอยู่เสมอ จนกลายเป็นแรงขับสำคัญที่ทำให้เมืองนครมีชื่อในฐานะเมืองแห่งนักเขียนและศิลปิน อดีตร้านหนังสือแห่งนี้ตั้งอยู่ภายใน…
สมัยก่อนพ่อเป็นนายหนังตะลุงที่หวงวิชามากจนมีโอกาสเข้าเฝ้าในหลวง ร.9คำตรัสของพระองค์ท่าน เปลี่ยนความคิดพ่อไปอย่างสิ้นเชิง “สมัยก่อน นายหนังหรือผู้แสดงหลักในหนังตะลุง ส่วนใหญ่เขาจะหวงวิชามากนะครับ มันเหมือนศิลปะการแสดงที่ถ่ายทอดกันอย่างจำกัด และนายหนังแต่ละคนก็จะมีศาสตร์เฉพาะตัวในการแสดงเช่นเดียวกับคุณพ่อของผม (สุชาติ ทรัพย์สิน) แกก็เป็นคนหวงวิชามาก ๆ ใครมาขอให้สอนตอกหนังหรือเชิดหุ่นนี่ยาก กระทั่งปี 2527…
เมืองเรามีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีความพร้อม แต่พื้นที่ระดับชุมชนที่ชาวบ้านได้มาจัดกิจกรรมร่วมกัน แบบที่ไม่ต้องใช้พื้นที่ถนนสาธารณะน่ะ ยังไม่มี ถ้ามีจะดีมาก ๆ “ครอบครัวพี่แต่เดิมเป็นชาวนาอยู่นอกเขตเทศบาล กระทั่งพี่ชายและพี่สาวสอบติดโรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช แม่ก็เลยตัดสินใจย้ายเข้ามาทำงานในเมืองแม่มาปลูกบ้านอยู่แถวถนนพัฒนาการคูขวางราวปี 2521 ก่อนหน้าที่เขาจะตัดถนนเป็น 4 เลน ย่านที่เราอยู่ค่อนข้างเสื่อมโทรม เหมือนขยะใต้พรมของเมือง…
การจะทำให้เมืองเราเป็นเมืองอัจฉริยะปัจจัยสำคัญที่ต้องมีคือการมีโรงเรียนที่ตอบโจทย์การศึกษาด้านเทคโนโลยี “เวลาพูดถึงโรงเรียนในสังกัดเทศบาล หรือกระทั่งโรงเรียนวัดเนี่ย คนส่วนมากมักนึกถึงการเป็นโรงเรียนขยายโอกาส หรือทางเลือกสุดท้าย ไม่ใช่ทางเลือกหลักของผู้ปกครองส่วนใหญ่นักอย่างไรก็ตาม กับโรงเรียนทั้ง 8 แห่งในสังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโรงเรียนวัดทั้งหมดด้วย กลับแตกต่างออกไป เพราะที่นี่กลายเป็นโรงเรียนที่เด็ก ๆ ในนครต้องสอบแข่งขันเพื่อเข้าเรียน กลายเป็นโรงเรียนชั้นนำในกลุ่มปฐมวัยไปสิ่งนี้ต้องยกเครดิตให้นายกเทศมนตรีสมนึก…
แม้เราจะพึ่งพาเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือหลักแต่แก่นสารของมันคือการคิดนโยบายที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนหัวใจสำคัญจึงไม่ใช่เทคโนโลยี แต่เป็นผู้คน “หลังเรียนจบผมก็กลับมานครบ้านเกิด เข้าทำงานเป็นลูกจ้างเทศบาล ก่อนจะไต่เต้าขึ้นมาเรื่อย ๆ จนเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์แผนและนโยบายในปัจจุบันสี่ปีที่แล้ว ตอน ดร.โจ (กณพ เกตุชาติ) หาเสียงเพื่อรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราชสมัยแรก ท่านได้เสนอนโยบายเรื่องเมืองอัจฉริยะด้วยการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อทำให้เมืองน่าอยู่ พอท่านได้รับเลือกเข้ามา บทบาทของผมคือการช่วยท่านเขียนแผนดังกล่าวผมได้เรียนรู้จาก…