“มหาวิทยาลัยวัยที่สามคือพื้นที่ของคนสูงวัย
ที่หัวใจไม่แก่ตาม”
“นักศึกษาในมหาวิทยาลัยวัยที่สามของเรามีอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป อาวุโสสุดนี่ก็ 80 กว่าปี ใช่ครับ… ถ้าอธิบายด้วยภาษาง่าย ๆ ที่นี่คือโรงเรียนผู้สูงอายุ
ทำไมจึงเรียกมหาวิทยาลัย? เพราะโรงเรียนเราเริ่มต้นดำเนินการโดยอาจารย์มหาวิทยาลัย ก็เลยเรียกชื่อนั้น แต่แตกต่างจากมหาวิทยาลัยและโรงเรียนผู้สูงอายุทั่วไปก็ตรงที่ คณะกรรมการของเราเป็นประชาชนทั่วไปในชุมชนต่าง ๆ ที่มาร่วมบริหารจัดการหลักสูตรด้วยกัน
มหาวิทยาลัยวัยที่สามเปิดทำการครั้งแรกในปี 2560 โดยมีกองการแพทย์ สำนักการศึกษา และกองสวัสดิการสังคมของเทศบาลนครเชียงรายร่วมกันจัดตั้ง ก่อนส่งต่อให้ภาคประชาชนอย่างพวกเราขับเคลื่อน เรามี 8 หลักสูตรการศึกษา 16 รายวิชา อาทิ ภาษาต่างประเทศ ไอที เศรษฐกิจในครัวเรือน ดนตรี ศิลปะ รำวง ลีลาศ โยคะ เสริมสวย ไปจนถึงองค์ความรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม วิชาเรียนเหล่านี้เกิดจากการสำรวจความคิดเห็นจากชาวบ้านทั้ง 65 ชุมชนในเขตเทศบาลฯ ส่วนอาจารย์ก็มีทั้งอาจารย์มหาวิทยาลัยจริง ๆ นักการแพทย์จากโรงพยาบาล ไปจนถึงปราชญ์ชุมชน ซึ่งมีค่าตอบแทนให้
มหาวิทยาลัยเปิดทำการวันจันทร์ถึงศุกร์ ในแต่ละวิชาจะมีเรียนสัปดาห์ละ 1 คาบ คาบละ 3 ชั่วโมง แต่นักศึกษาสามารถลงเรียนได้มากกว่า 1 วิชา ส่วนใหญ่เขาก็ลงอย่างน้อย 3 วิชา มาเรียนเอาความรู้ก็เรื่องหนึ่ง แต่เหตุผลหลัก ๆ น่าจะเป็นเพราะนักศึกษาอยากมาทำกิจกรรมกับเพื่อนวัยเดียวกัน หรือมาเข้าสังคมมากกว่า อ่อ เรามีค่าเล่าเรียนด้วยนะครับ วิชาละ 200 บาท ซึ่งมีการสอบวัดผล และมอบใบปริญญาแบบสถาบันการศึกษาทั่วไปเลย
ผมเป็นนักศึกษารุ่นที่ 5 ก่อนหน้านี้ผมรับราชการครู พอเกษียณมา ฟังวิทยุ ก็ได้ทราบข่าวถึงมหาวิทยาลัยฯ นี้ เลยมาสมัครเรียนดนตรีพื้นเมือง ลีลาศ และรำวง พอจบการศึกษาไป เขาก็ชวนให้ผมมาเป็นอาจารย์ ก่อนจะมาเป็นคณะกรรมการ และเป็นครูใหญ่ในปัจจุบัน ตอนนี้เรามี 13 รุ่นแล้ว
ข้อดีของที่นี่คือไม่ใช่ว่าคุณมาเรียนจบแล้วก็แยกย้าย แต่เทศบาลฯ ในฐานะเจ้าของพื้นที่ เขาพยายามเชื่อมกลุ่มนักศึกษาเข้ากับกิจกรรมของเมืองต่าง ๆ อย่างถ้าคุณเรียนรำวง หรือศิลปะการแสดง เขาก็จะเชิญไปทำการแสดงในอิเวนต์ของเมืองบ้าง หรือถ้าเรียนเรื่องธุรกิจ ก็มีไปตั้งบูทออกร้าน ขณะเดียวกัน นักศึกษาของเรา เขาก็ไปตั้งชมรมของพวกเขาเพื่อหาเวลามาทำกิจกรรมร่วมกันต่อ เช่น ชมรมลีลาศ ชมรมพุทธศาสนา ชมรมดนตรี เป็นต้น ตอนนี้แตกหน่อออกมา 7 ชมรมแล้ว ส่วนใหญ่เขาก็มาทำกิจกรรมในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยเราต่อ
เราเปิดรับนักศึกษาเป็นรุ่น ๆ ครับ เป็นระบบภาคการศึกษาเหมือนโรงเรียน ปีหนึ่งจะมี 2 รุ่น ถ้าคุณอยู่ในเขตเทศบาลนครเชียงรายจะต้องมีอายุ 55 ปีขึ้นไป แต่ถ้าอยู่นอกเขต จะต้องอายุ 60 ปีขึ้นไป หลายคนมาเรียนแล้วเรียนอีกจนครบทุกหลักสูตรก็มี ชาวต่างชาติที่มาอยู่เชียงรายก็มีทุกรุ่น ผู้ป่วยมะเร็งเราก็มีหลายคน ผมมองว่าที่นี่มันเหมือนที่ผ่อนคลายของคนรุ่นผมนะ ได้เจอเพื่อน ได้ทำกิจกรรม ได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ เป็นพื้นที่ของคนสูงวัยที่หัวใจไม่แก่ตาม”
#เทศบาลนครเชียงราย #มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง #หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาพื้นที่ #บพท #โปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่การเป็นเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด #CIAP #wecitzens