ผมเป็นฟรีแลนซ์กราฟิกดิไซเนอร์ และขายของออนไลน์ควบคู่ไปด้วย บ้านผมอยู่ในชุมชนวัดทางหลวง บางเขน ความที่โตมากับชุมชนนี้ ก็เลยมีความผูกพัน พอเห็นว่าอาสาสมัครชุมชนไม่ค่อยมีคนรุ่นใหม่มาทำเท่าไหร่ ทั้งที่มันเป็นงานที่ต้องใช้แรงพอสมควร ผมก็เลยอาสามาช่วยทำ
ชุมชนเราตั้งอยู่ชายขอบของเขตเทศบาลนครนนทบุรี ติดกับเขตบางซื่อของกรุงเทพฯ ตรงนั้นมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงผ่าน แต่สถานีไม่ได้ตั้งอยู่ในชุมชนเรา ถ้าจะขึ้นรถไฟฟ้า ต้องเดินข้ามคลองไปที่เขตบางซื่อ ตรงนี้จึงเห็นความต่างชัดเจน เพราะบางซื่อมีทางเท้าที่ค่อนข้างดี แต่ของชุมชนเรา ถ้าเป็นคนแก่หรือคนพิการจะสัญจรลำบาก เราก็แจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบให้มาช่วยพัฒนา เพราะชุมชนเรามีผู้สูงอายุอยู่เยอะ แต่สภาพแวดล้อมกลับไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่
ด้วยความที่ชุมชนเราอยู่ติดกรุงเทพฯ จะเห็นว่าสัดส่วนประชากรมีความหลากหลายมาก มีทั้งคนดั้งเดิม คนกรุงเทพฯ คนต่างจังหวัด และแรงงานจากต่างถิ่น ชุมชนเราจึงมีทั้งหมู่บ้านเก่า โครงการบ้านจัดสรร ไปจนถึงชุมชนแออัด ในฐานะคนทำงานชุมชนที่ต้องประสานงานกับทุกครัวเรือน ก็เหนื่อยพอสมควร อย่างบ้านจัดสรรหรือคอนโดมิเนียม เขาก็มีผู้จัดการนิติบุคคลดูแล บางแห่งก็ประสานงานร่วมกับเรา บางแห่งก็จัดการกันเอง การสร้างการมีส่วนร่วมจึงไม่ทั่วถึงเท่าที่ควร
หมู่บ้านจัดสรรบางแห่งก็เป็นเอกเทศ เวลาจะทำข้อเสนอไปยังเทศบาลฯ หรือหน่วยงานรัฐอื่น ๆ จึงอาจไม่ครอบคลุมความต้องการทั้งหมด แต่ถึงอย่างนั้น โครงสร้างพื้นฐานอย่างถนน ทางเท้า ท่อระบายน้ำ และอื่น ๆ เราก็ต้องเป็นตัวแทนให้ หรือถ้าเขาต้องการให้ช่วยส่งผู้สูงอายุไปโรงพยาบาล หรืองานด้านสาธารณสุขอื่น ๆ เราก็ยินดีเต็มที่
หลัก ๆ เราทำงานผ่านแอปพลิเคชัน ‘สมาร์ท อสม.’ ที่ขับเคลื่อนโดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข แอปพลิเคชันนี้เน้นเรื่องการเฝ้าระวังและควบคุมโรค ซึ่งพอทราบว่าทาง บพท. จะพัฒนาแอปพลิเคชัน ‘เวชศาสตร์วิถีชีวิต’ เพิ่มเติมในแอปฯ ‘นครนนท์’ ผมคิดว่าน่าจะช่วยเติมเต็มเรื่องการดูแลสุขภาพของคนในเขตเทศบาลให้ครอบคลุมมากขึ้น
อย่างไรก็ดี อย่างที่บอกไป ในฐานะตัวแทนชุมชนวัดทางหลวง จริง ๆ แล้วพวกสวนสาธารณะหรือพื้นที่พักผ่อน ชุมชนเรายังพอเข้าถึงได้ แต่ก็อยากให้เทศบาลฯ มาช่วยปรับปรุงทางเท้าให้ดีขึ้น เพื่อให้ผู้สูงอายุและคนทั่วไปสัญจรได้สะดวกขึ้นครับ”