“ครอบครัวตั้งแต่รุ่นอากงอาม่าอยู่ที่นี่กันหมด ค้าขายอยู่ตรงท่าน้ำดับเพลิง สมัยก่อนเรียก ท่าปากเพรียว คนจีนเรียก ปั๊กเพียว เป็นท่าเรือริมแม่น้ำป่าสักที่ลงของจากกรุงเทพฯ เข้ามา บ้านที่อยู่ก็โยกย้ายบ้างแต่ก็อยู่บริเวณตลาดนี่แหละ เราเคยชินกับชีวิตที่อยู่ใจกลางเมือง เราหิวเดินไปซื้อได้ เหงา ๆ ก็เดินมาหาเพื่อนในตลาด ทุกคนในตลาดก็รู้จักกันเกือบทั้งหมด เราเคยไปอยู่กรุงเทพฯ กับต่างประเทศหลายปี ช่วงโควิด-19 ก็อยากกลับบ้านมาอยู่กับครอบครัว เมื่อปีที่แล้ว เราทำงานอาสาสมัครชุมชน และได้รับเลือกตั้งเป็นประธานกรรมการชุมชนวัดศรีบุรีรตนาราม (วัดเพรียว) ครอบคลุมเขตตลาดใน โรงเจบ้วนเฮงตั๊ว สถานีรถไฟ จำนวนประชากรในชุมชนประมาณ 2,000 คนเศษ
กิจวัตรประจำทุกวันคือ เดินจากบ้านไม่กี่ก้าวถึงในตัวตลาด ก็เดินทักทายอากู๋ อาซิ่ม อาแปะ อาเจ้ หรือเรามีข่าวสารประชาสัมพันธ์ หรือรับฟังความคิดเห็นในแต่ละวัน อาจจะถนนวันนี้มีเสียงดังนะ วันนี้ไฟฟ้าดับนะ ก็ต้องขอความอนุเคราะห์จากบ้านใกล้เรือนเคียงหรือแต่ละจุดด้วยว่าถ้าเห็นอะไรผิดปกติช่วยโทรมาแจ้ง เราก็แจ้งต่อไปหน่วยงานที่รับผิดชอบหรือทางเทศบาลฯ เรารีบดำเนินการให้ทันที เพราะที่นี่คือบ้านเรา เจ้าหน้าที่หรือผู้เกี่ยวข้องเองก็มาดำเนินการแก้ไขให้ไวเหมือนกัน
กลับมาอยู่บ้านประมาณ 3 ปี ก็เห็นว่าสภาพเศรษฐกิจในเมืองค่อนข้างซบเซา ส่วนหนึ่งจากการขยายตัวเศรษฐกิจออกรอบนอก คนที่อยู่ในเมืองใช้ชีวิตเปลี่ยนไป บางคนมีร้านอยู่ในตลาด มีบ้านอยู่รอบนอก ตอนเช้ามาค้าขาย ตอนเย็นกลับ แล้วพฤติกรรมคนส่วนมากก็เปลี่ยนมาซื้อของออนไลน์ หรือดิลิเวอรี การแข่งขันค่อนข้างสูง มีการกระจายตัวมากขึ้น คนไม่จำเป็นต้องเข้าเมือง ที่จอดรถก็หายาก ใจกลางเมืองที่เราอยู่ ณ ปัจจุบัน ไม่ใช่เป็นเมืองใหญ่ ค่อนข้างมีขอบเขตจำกัด พื้นที่ของเอกชนเยอะ พื้นที่หลวงจริง ๆ คือน้อยมาก ตลาดก็ขยายตัวได้แค่นี้เนอะ ผู้บริโภคก็น้อยลง เขาจะเข้ามาก็ต่อเมื่อต้องการซื้อสินค้าที่จำเป็นจริง ๆ ที่รอบนอกไม่มี ก็คิดว่าตลาดจะหมุนเวียนคึกคักขึ้นคือมีของหรือบริการที่ต้องเข้ามาซื้อที่นี่เท่านั้น อย่างช่วงโรงเรียนเปิดเทอม ผู้ปกครองจะพาเด็กมาซื้อเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เขายังนิยมมา เพราะซื้อแล้วร้านค้าปักชื่อให้เลย อำนวยความสะดวก ถ้าไปซื้อตามห้าง ก็ต้องมาหาที่ปักชื่ออยู่ดี
ของที่ขายในตลาดก็บอกช่วงเวลาเหมือนกัน เทศกาลตรุษจีน วาเลนไทน์ เชงเม้ง หรือสงกรานต์ที่ทุกคนก็เข้ามาซื้อพวกเสื้อลายดอก ผ้าขาวม้า ผ้าถุง ผ้านุ่ง ผ้าไหม ผ้าซิ่น คือจะไปซื้อห้างก็ไม่ได้ครอบคลุมทุกอย่างนะ ที่นี่มีความหลากหลายเยอะกว่า ลองใส่ได้ หลายสี หลายลาย หลายรุ่น หลายไซส์ อย่างช่วงงานตรุษจีน คนเข้ามาซื้อชุดจีน ชุดสีแดง ซื้อตรงนี้ปุ๊บก็ใส่เดินไปถ่ายรูปได้เลย แล้วเป็นเรื่อง human touch ด้วย เข้ามาพูดคุยกับอาเฮียอาเจ้ ร้านนี้รู้จักกันเดี๋ยวมาอุดหนุนหน่อย สังคมคนไทยยังมีความเอื้อเฟื้อ คุ้นเคยกัน หรือเวลามีกิจกรรมอะไร เราอุดหนุนคนในชุมชนเรา ซื้อแกงร้านนี้ ซื้อขนมร้านนี้ ซื้อน้ำร้านนี้ เป็นการกระจายรายได้ในชุมชน
สิ่งที่คนในชุมชนรวมทั้งเราด้วยอยากให้พัฒนา หนึ่ง) สภาพการจราจร ช่วงเช้ากับช่วงเย็นทุกวันคือรถติดมาก รางรถไฟก็อยู่ใจกลางเมือง พอรถไฟมา ก็ต้องรอรถไฟอีก สอง) อยากกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน นายกเชน (ธีรรัตน์ จึงยิ่งเรืองรุ่ง นายกเทศมนตรีเมืองสระบุรี) ก็จัดกิจกรรมต่าง ๆ ขึ้นมา โซนเมืองของเราเป็นตรงกลางของการจัดงานเลย ไม่ว่าจะเป็นตรุษจีน สงกรานต์ ลอยกระทง มันอาจจะกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงเทศกาล แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีเลย หากมีการจัดงาน ประชาสัมพันธ์ให้คนเข้ามา ตรงนี้มีจุดเช็กอิน มีวัดโบราณ มีของกินอร่อย ๆ คือเขาจัดกิจกรรมอะไร คนในชุมชนพร้อมที่จะร่วมอยู่แล้วทุกครั้ง ทุกคนไม่อยากให้เมืองเงียบ และซบเซา”
#ชุมชนวัดศรีรตนาราม #เทศบาลเมืองสระบุรี #คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย #โปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่อย่างชาญฉลาดในระดับพื้นที่ #CIAP #บพท #wecitizens
“ความเป็นเมืองสระบุรี เราเป็นเมืองผ่านไปสู่จังหวัดต่าง ๆ เป็นแหล่งอุตสาหกรรม มีโรงงานเยอะ แต่ถ้าในบริบทตำบลปากเพรียวที่เป็นเขตเทศบาลเมืองสระบุรีคือไม่มีโรงงาน ยังเป็นชุมชนชาวบ้าน มีตลาดนัด ตลาดต่าง ๆ แต่หลังจากที่มีโรคโควิด-19 คือจุดเปลี่ยน คนที่เคยอยู่ตรงนี้ ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่อื่นมากขึ้น ทำให้สภาพบ้านเมืองเงียบเหงาลง…
“โดยหน้าที่ของผมคือประชาสัมพันธ์กิจกรรม เทศกาลต่าง ๆ ที่ทางเทศบาลเมืองสระบุรีเป็นผู้จัดขึ้น โพรโมตสถานที่ท่องเที่ยว สิ่งที่น่าสนใจในเมืองของเราให้ชาวเมืองสระบุรีรวมถึงผู้อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงได้รับรู้และอยากมาเยี่ยมเยียน เราเพิ่งจัดแคมเปญ ‘วันเดียวเที่ยว 9 วัด’ เช่น วัดศรีบุรีรตนาราม หรือวัดปากเพรียว เป็นวัดคู่บ้านคู่เมือง เรามีวัดใหม่ที่สร้างขึ้นมาไม่นาน…
พื้นที่ 20.13 ตารางกิโลเมตรของเทศบาลเมืองสระบุรีคือสังคมเมืองขนาดกำลังพอดี มีบรรยากาศไม่เร่งรีบอย่างเมืองมหานคร และมีเสน่ห์เรียบง่ายของเมืองเล็ก ที่สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการสาธารณะครบถ้วนในการอยู่อาศัยและใช้ชีวิต เทศบาลฯ ผลักดันโครงการพัฒนาเมืองอย่างไม่หยุดนิ่ง มีแผนพัฒนาท้องถิ่นที่กำลังเกิดขึ้นเพื่อสร้างเมืองน่าอยู่ เช่น สร้างพื้นที่สีเขียวแห่งแรกของเมืองสระบุรี กว่า 20 ไร่ ปรับปรุงสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดสระบุรีและพื้นที่โดยรอบ…
“ความตั้งใจคือ ถ้าจะพัฒนา หรือขับเคลื่อนเมือง ควรมีภาควิชาการมาช่วยทำให้ข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะต่าง ๆ ของทั้งประชาชน ของผู้บริหาร ความใฝ่ฝัน ความต้องการในการพัฒนาเมืองของผู้บริหาร อยู่บนพื้นฐานข้อมูลข้อเท็จจริง ประกอบกับการมีเทคโนโลยีมาช่วยขับเคลื่อนเป็นเครื่องมือสำคัญในการอธิบายข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งเรียกว่าเป็นวิธีการใหม่ คือโปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด…
“อธิบายความเป็นเมืองสระบุรีก่อนว่า เป็นเส้นทางที่มีถนน 2 เส้นคือถนนพหลโยธินและถนนมิตรภาพ เมืองเป็นศูนย์กลางของทุกภาคส่วน ทั้งส่วนราชการ เศรษฐกิจ สังคม ทีนี้ เกิดถนนวงแหวนเส้นเลี่ยงเมือง จากอำเภอเมืองไปเชื่อมต่ออำเภอเสาไห้เป็นเส้นเลี่ยงเมืองฝั่งตะวันตก เส้นเลี่ยงเมืองฝั่งตะวันออกไปทางตำบลตะกุด ทางอำเภอแก่งคอย จริง ๆ…
“การพัฒนาเมืองต้องร่วมมือกัน ถ้าปราศจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ประชาชน ภาครัฐ ภาคเอกชน มันไม่เกิดขึ้น แล้วควรเป็นความร่วมมือแบบจริงใจ เอาจริง ๆ แค่ทุกคนทำตามหน้าที่ตัวเอง ผมว่าเราทำได้ ภาครัฐก็ควรเชื่อมโยงกันทุกหน่วยงาน ในยุคนายกฯ คนล่าสุด (ธีรรัตน์…