LIFESTYLE MEDICINE
“เวชศาสตร์วิถีชีวิต” ยกระดับคุณภาพชีวิตคนเมืองนนท์
เวชศาสตร์วิถีชีวิต (Lifestyle Medicine: LM) คือ สาขาทางการแพทย์ที่เน้นการป้องกันและรักษาโรคเรื้อรังผ่านการปรับพฤติกรรม เช่น การกินอาหารที่ดี ออกกำลังกาย จัดการความเครียด นอนหลับให้เพียงพอ เลิกบุหรี่หรือสารเสพติด และสร้างความสัมพันธ์ทางสังคมที่ดี เพื่อเสริมสร้างสุขภาพและคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน
ด้วยความเข้าใจในบริบทของเทศบาลนครนนทบุรี ซึ่งมีผู้สูงอายุจำนวนมาก เป็นชุมชนเมืองที่แออัด และเผชิญกับความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ นายแพทย์ปิยะ ฟองศรันย์ จึงนำแนวคิด LM มาใช้ในการดูแลสุขภาพประชาชน โดยยึดหลักว่า “หมอที่ดีที่สุดคือเราเองที่ต้องดูแลตัวเอง”
กองการแพทย์บูรณาการ LM ในศูนย์บริการสาธารณสุขทั้ง 11 แห่ง และทำงานเชิงรุกด้วยการส่งผู้เชี่ยวชาญอบรมชุมชนทั้ง 93 แห่ง ร่วมกับ บพท. พัฒนาแอปพลิเคชันติดตามสุขภาพ และสนับสนุนงบประมาณให้แต่ละชุมชนจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ
WeCitizens เรียบเรียงแนวคิดเบื้องหลังการขับเคลื่อนแนวทางการแพทย์ทางเลือก ซึ่งกำลังกลายเป็นหัวใจของระบบดูแลสุขภาพในนนทบุรี โดยแพทย์หนุ่มผู้มุ่งให้นนทบุรีเป็นเมืองต้นแบบสุขภาพที่ยั่งยืน
“เวชศาสตร์วิถีชีวิต หรือ LM ไม่ใช่เรื่องใหม่ ในต่างประเทศมีแพทย์เฉพาะทางด้านนี้และคลินิกเฉพาะทาง ส่วนในไทย กรมอนามัยเริ่มนำแนวคิดนี้มาใช้แล้ว และมีหลักสูตรอบรมแพทย์เฉพาะทางเช่นกัน เพียงแต่ยังจำกัดอยู่ในกลุ่มโรงพยาบาลเอกชน
ในฐานะหน่วยงานที่ดูแลสุขภาพของทุกคนในเขตเทศบาล LM จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการบรรเทาปัญหาสุขภาพ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุและกลุ่มรายได้น้อย
เมื่อเทียบกับชนชั้นกลางขึ้นไป คนกลุ่มนี้มีต้นทุนมากพอในการเข้าถึงสิ่งที่เอื้อต่อสุขภาพ ทั้งอาหารดี ๆ สถานที่ออกกำลังกาย หรือบริการทางการแพทย์จากสถาบันชั้นนำ แต่ผู้มีรายได้น้อยแทบเข้าไม่ถึงสิ่งเหล่านี้
เทศบาลฯ จึงทดลองขยายแนวทาง LM สู่ภาครัฐ โดยเริ่มจากการเชิญกรมอนามัยมาอบรมเจ้าหน้าที่เทศบาลให้เข้าใจหลักการ และถ่ายทอดความรู้สู่ประชาชน ผ่านประธาน อสม. และประธานชุมชนในทุกพื้นที่ ซึ่งได้รับการตอบรับดี ทุกคนเห็นว่าหลักการนี้มีประโยชน์และอยากให้เผยแพร่อย่างต่อเนื่อง
ความท้าทายสำคัญคือการปรับพฤติกรรมของประชาชน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย แม้จะรู้ว่าบางพฤติกรรมไม่ดี เช่น การสูบบุหรี่ หรือการกินอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง แต่ก็ยังเลิกไม่ได้
เราจึงนำหลักการของ Motivational Interviewing มาใช้ เป็นกระบวนการสนทนาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและกำลังใจในการเปลี่ยนพฤติกรรม โดยเริ่มจากการปรับมุมมอง สร้างแรงจูงใจใหม่ และให้กำลังใจ เราบอกเขาตรง ๆ ว่า ถึงจะมีสวัสดิการทางการแพทย์ที่ดี แต่ถ้าดูแลตัวเองให้ดีเสียแต่แรก ก็ไม่จำเป็นต้องใช้สิทธิ์เหล่านั้น
สำหรับโครงการที่เราร่วมกับ บพท. เป้าหมายคือสร้างต้นแบบการพัฒนาท้องถิ่นในแต่ละมิติโดยใช้แนวคิดสมาร์ทซิตี้ ผ่านการทำแพลตฟอร์มติดตามและประเมินผลสุขภาพ ฐานข้อมูลร้านอาหารสุขภาพในพื้นที่ รวมถึงการจัดตั้งคลินิกเวชศาสตร์วิถีชีวิตในศูนย์บริการสาธารณสุขที่ 6
โครงการเหล่านี้พัฒนาควบคู่ไปกับการลงทุนของเทศบาลฯ เช่น การขยายพื้นที่สีเขียว สถานที่ออกกำลังกาย ยกระดับทางเท้าให้เอื้อต่อการเดิน รวมถึงยุทธศาสตร์การแพทย์เชิงรุก โดยส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสุขภาพชุมชนอย่างต่อเนื่อง
สุดท้าย เป้าหมายของเราคือให้คนนนทบุรีตระหนักในการดูแลสุขภาพ เป็น ‘หมอ’ ที่ดูแลกายและใจของตัวเอง ขณะเดียวกัน แนวคิด LM โดยภาครัฐได้ขยายสู่เทศบาลและ อปท. อื่น ๆ แล้วกว่า 10 แห่ง
เมื่อพิจารณาจากระบบบริการสุขภาพที่เรามี ผมเชื่อว่า เทศบาลนครนนทบุรีจะเป็นต้นแบบเมืองสุขภาพดีระดับประเทศได้ไม่ยาก”
#เทศบาลนครนนทบุรี #มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ #บพท #pmua #CIAP #โปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่การเป็นเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด