[The Insider] สัญชาย ชาตรีทัพ
รองปลัดเทศบาล เทศบาลนครนครศรีธรรมราช

Start
7 views
22 mins read

“โจทย์สำคัญ คือ เราจะทำอย่างไรให้ผู้คนมีบทบาทในการพัฒนาเมืองน่าอยู่ Application Line-OA ถูกเลือกมาตอบโจทย์นี้ ให้ทุกคนช่วยกันอัปเดต ข้อมูลเมือง ร้องเรียน และแจ้งเตือนเหตุต่าง ๆ”

นคร 48 ชั่วโมง
นครศรีธรรมราชกับภารกิจเมืองอัจฉริยะ

99,918 คือจำนวนผู้ใช้งาน LINE OA “Nakhoncity” แอปพลิเคชันของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ตัวเลขนี้ถือว่าสูงมาก เมื่อเทียบกับประชากรในเขตเทศบาลฯ ที่มีราว 110,000 คน
แม้แอปฯ เดียวจะไม่เปลี่ยนเมืองให้กลายเป็นสมาร์ทซิตี้ในชั่วข้ามคืน แต่ผลสำรวจความพึงพอใจจากโครงการเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด ที่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ร่วมกับ บพท. ชี้ว่า Nakhoncity กลายเป็นเครื่องมือที่ตอบโจทย์ชีวิตของคนในพื้นที่อย่างมีนัยสำคัญ


ก่อนอื่น อยากให้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของไลน์โอเอ “Nakhoncity” ให้ฟังหน่อยครับ
แอปฯ นี้ริเริ่มโดยท่านนายกฯ เมื่อปี 2567 ที่ผ่านมา ภายใต้วิสัยทัศน์ว่าเทศบาลเราจะพัฒนาเมืองให้เป็นสมาร์ทซิตี้แต่ก็ยังอยู่ในพื้นฐานของเมืองประวัติศาสตร์ และเมืองที่ส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับผู้คนทุกช่วงวัย
 
ที่ผ่านมา เทศบาลเราสามารถยกระดับโรงเรียนในสังกัดให้กลายเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของผู้ปกครองได้แล้ว โดยมีหลักสูตรดิจิทัล AI และห้องเรียน Metaverse มาใช้ทั้งในโรงเรียน และมีศูนย์การเรียนรู้กลางเมือง
แต่โจทย์สำคัญคือ เราจะทำอย่างไรให้ผู้คนมีบทบาทในการพัฒนาเมืองไปตามวิสัยทัศน์นี้ รวมถึงสร้างกลไกที่ทำให้เมืองน่าอยู่ แอปพลิเคชั่นไลน์โอเอจึงถูกเลือกมาเพื่อตอบโจทย์นี้ โดยนี่เป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำให้ผู้คนสามารถอัปเดตข้อมูลต่าง ๆ ของเมือง รับเรื่องร้องเรียน และแจ้งเตือนเหตุต่าง ๆ

ที่สำคัญ เมื่อเราให้คำมั่นสัญญากับประชาชนว่า เราจะแก้ข้อร้องเรียนภายใน 48 ชั่วโมง พร้อมมีการรายงานผลของการแก้ปัญหาทันที 

ทำไมต้องเป็นแอปพลิเคชั่นไลน์โอเอครับ
เพราะมันใช้ง่ายที่สุดครับ หัวใจของการเลือกเทคโนโลยีที่ “ฉลาด” คือ ต้องตอบโจทย์คนใช้งานจริง ลงทุนน้อยแต่ได้ผลสูง เพราะชาวบ้านใช้กันอยู่แล้ว ไม่ต้องเรียนรู้อะไรใหม่ เราไม่ได้เริ่มจากเทคโนโลยี แต่เริ่มจาก “ความต้องการของชาวบ้าน” แล้วค่อยหาเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์นั้นให้ได้จริง


Nakhoncity ทำงานอย่างไร
เมื่อเข้าไปใน LINE OA จะมีเมนูให้เลือกใช้งาน เช่น จองคิวทำธุรกรรมกับเทศบาล ดูสถานะน้ำจากกล้อง CCTV แบบเรียลไทม์ พร้อมระบบแจ้งเตือนเมื่อระดับน้ำถึงจุดวิกฤติ อีกฟังก์ชันคือรับเรื่องร้องเรียน ระบบจะคัดกรองและส่งต่อไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบอย่างเป็นอัตโนมัติ เช่น ไฟทางดับ ระบบจะส่งเรื่องถึงทีมช่าง แก้ไขแล้วถ่ายรูปส่งกลับถึงไลน์ผู้ร้องเรียนภายใน 48 ชั่วโมงหลังรับเรื่อง


เราแก้ปัญหาทุกเรื่องได้ 48 ชั่วโมงเลยหรอครับ
ถ้าเป็นเรื่องใหญ่ ๆ อย่างเช่น ถ้ามีอาคารเสียหายหนัก และจำเป็นต้องรองบประมาณมาซ่อมแซม เราก็จะแจ้งเหตุผลไป แต่ถ้าพวกขยะ ไฟฟ้า น้ำไม่ไหล ถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ อันนี้เราทำได้ทันทีภายใน 48 ชั่วโมง

นี่คือเหตุผลว่าทำไมคนในเขตเทศบาลฯ ถึงใช้แอปฯ Nakhoncity กันเกิน 80% ของประชากรทั้งหมด ยกเว้นแค่เด็กเล็กที่ยังใช้มือถือไม่ได้ ซึ่งสถิตินี้ ถ้าเทียบกับเมืองอื่น ๆ ที่เขาใช้กันแค่ 20% ก็ถือว่าเรามาถูกทางแล้ว

น่าสนใจที่บอกว่าแอปฯ นี้มันไม่ใช่แค่เครื่องมือร้องเรียนปัญหา แต่เป็นเครื่องมือสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน อยากให้ขยายความเพิ่มหน่อยครับ
ถ้าเรามีระบบที่ทำให้ประชาชนมีเสียง และการร้องเรียนสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันใจ สิ่งนี้มันทำให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของประโยชน์สาธารณะได้โดยตรง เช่น การรายงานปัญหาขยะ หรือการปล่อยน้ำเสีย เขาจะคิดว่าเมืองทั้งเมืองคือบ้านของเขา 

ในทางกลับกัน เทศบาลก็สามารถเรียนรู้จากการร้องเรียน เช่น ปัญหาขยะชิ้นใหญ่ซึ่งมักไปอุดตันท่อระบายน้ำ เราจึงจัดบริการเก็บขยะชิ้นใหญ่ถึงบ้านฟรี  ข้อมูลร้องเรียนต่าง ๆ จากประชาชนจะถูกรวบรวมในระบบคล้ายกับ CDP (City Data Platform) เช่น แจ้งว่าถนนตรงไหนชำรุด ไฟฟ้าตรงไหนดับบ่อย ระบบก็จะเก็บข้อมูลอัตโนมัติและแสดงผลชัดเจน

เหมือนใช้แอปฯ นี้เป็นการรวบรวมและสังเคราะห์ข้อมูลเพื่อไปกำหนดแผนพัฒนาเมือง
ถูกต้องครับ เพราะเทศบาลจำเป็นต้องมีแผนชัดเจน ทั้งแผนระยะสั้นประจำปี และแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ระบบดิจิทัลช่วยเปลี่ยนจากเอกสารเป็นข้อมูลเรียลไทม์ที่วิเคราะห์ได้ทันที เช่น ถนนเส้นไหนควรซ่อม ไฟฟ้าเขตไหนต้องปรับปรุง ระบบจะขึ้นสถิติไว้ทั้งหมดและเมื่อถูกถามว่าแผนที่เสนองบประมาณไปนั้นมาจากไหน เราก็สามารถอ้างอิงข้อมูลได้ทันที อย่างตอนนี้เราขอจัดงบสำหรับระบบประปาเป็นปีที่สองแล้ว เพราะเราดูแลประปาเอง ไม่ได้ใช้บริการประปาภูมิภาค เพื่อทำให้ประชาชนเข้าถึงน้ำในราคาประหยัด ข้อมูลเหล่านี้ทำให้เราสามารถไปชี้แจงกับหน่วยงานกลาง เช่น สำนักงบประมาณ ได้อย่างมั่นใจ และเมื่อระบบรับงบประมาณแบบ “รับตรง” จากส่วนกลางมากขึ้น เราก็ยิ่งต้องมีข้อมูลรองรับที่ชัดเจน เพื่อป้องกันการถูกตัดงบโดยกรรมาธิการหรือฝ่ายนิติบัญญัติ

การมีข้อมูลเมืองที่พร้อมจะช่วยรับมือกับปัญหาที่ดูเหมือนเกินขอบเขตความสามารถของเทศบาลฯ ได้อย่างไร โดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นบ่อยในเขตตัวเมือง 
เราอาจแก้ปัญหาให้หมดไปไม่ได้ แต่สามารถลดผลกระทบได้ เช่น น้ำท่วมครั้งล่าสุด แม้วางแนวป้องกันสูงแค่ไหนก็ยังไม่พอ ที่ผ่านมา เรารับมือโดยอิงข้อมูลเดิม เมืองจึงต้องเปลี่ยนแนวคิด ใช้ “ข้อมูล” เป็นเครื่องมือสำคัญ เช่น การเร่งระบายน้ำให้เร็วที่สุด แม้กั้นน้ำไม่ได้ แต่ลดความเสียหายได้ชัดเจน ปี 2563 น้ำท่วมอยู่ถึง 4 วัน แต่หลังจากปี 2564 ที่เราเริ่มใช้ข้อมูลจริงจัง เรานำกล้องวงจรปิดที่เคยใช้ดูจราจร มาส่องคลอง จุดที่มีขยะ จุดตื้นเขิน แล้วส่งทีมงานเข้าไปจัดการล่วงหน้าได้ทันก่อนน้ำมา

ขณะเดียวกัน ระบบเตือนภัยน้ำท่วมก็พัฒนาเพิ่มขึ้น จากเดิมต้องรอ SMS ทางราชการ เราเปลี่ยนมาใช้กล้องต้นน้ำร่วมกับ LINE OA ของเทศบาล ให้ประชาชนติดตามสถานการณ์แบบเรียลไทม์ มีหมวดเฉพาะอย่าง “กล้องเฝ้าระดับน้ำท่วม” และขณะนี้ก็กำลังพัฒนาให้ครอบคลุมพื้นที่ต้นน้ำมากขึ้นอีก


คำถามสุดท้ายครับ ภาพฝันที่อยากเห็นในเมืองนครฯ ต่อไปในอนาคต
ผมอยากเห็นเมืองของเราเป็นสมาร์ทซิตี้ ที่ครบทั้ง 7 ด้าน ปัจจุบันเราทำได้แล้ว 5 เหลือเพียงด้านพลังงาน (Smart Energy) และการขนส่ง (Mobility) ที่ยังไม่สมบูรณ์

ในด้านพลังงาน เราหวังจะเปลี่ยนอาคารของเทศบาล เช่น หอประชุมเมือง หรือโรงพยาบาลใหม่ ให้ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ผ่านระบบโซลาร์รูฟท็อป เพื่อประหยัดค่าไฟ 

ด้านการขนส่ง ปัจจุบันระบบขนส่งในเมืองตอนนี้ยังไม่มีโครงสร้างที่ชัดเจน หลายคนบ่นว่า “มาเที่ยวแต่ไม่รู้จะไปคีรีวงศ์ยังไง” ทั้งที่มีรถ แต่ไม่มีใครรู้ และไม่มีศูนย์ข้อมูล ปัญหานี้เกิดจากโครงสร้างอำนาจ เพราะระบบขนส่งเป็นหน้าที่ของกรมขนส่งทางบก ไม่ใช่เทศบาล เราจึงไม่สามารถจัดการหรือพัฒนาได้เต็มที่ 

แต่หากเรามีอำนาจหรือมีการร่วมมือ เช่น ทำ Shuttle Bus เชื่อมสถานที่ท่องเที่ยวหลัก ใช้รถ EV ลดพลังงานและเชื่อมโยงข้อมูลการเดินทางให้ชัดเจน ก็จะช่วยให้เมืองน่าอยู่มากขึ้น 

ภาพฝันของผมคือ เมืองทันสมัย ที่มีพลังงานสะอาด มีระบบขนส่งที่เชื่อมโยง และรองรับการท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบ เพื่อให้เมืองของเราเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ เมืองสีเขียว และเมืองแห่งอนาคตที่แท้จริง

ติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาเมืองนครศรีธรรมราช
Facebook : ศูนย์ประชาสัมพันธ์ สำนักงานเทศบาลนครนครศรีธรรมราช
Website : www.nakhoncity.org