จากแพลตฟอร์มดูแลสุขภาพสู่เป้าหมาย Healthy City
“ระบบติดตามผลสุขภาพเวชศาสตร์วิถีชีวิตนครนนท์
จะทำให้การดูแลสุขภาพของคนนนท์เป็นเรื่องง่าย และมีแรงจูงใจ”
WeCitizens สนทนากับ รศ. ดร.สมพร คุณวิชิต อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ถึงบทบาทในการขับเคลื่อนงานวิจัย “การบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดและการยกระดับบริการสาธารณะด้านสุขภาวะสำหรับผู้สูงวัยในพื้นที่เทศบาลนครนนทบุรี”
จากนักวิจัยชั้นแนวหน้าด้านการจัดการภัยพิบัติ และการศึกษา Resilient City (ดุษฎีบัณฑิตสาขา Public Management & Emergency Management จาก University of North Texas สหรัฐอเมริกา) อะไรทำให้นักวิจัยผู้นี้ หันมาสนใจประเด็นด้าน Healthy City ผ่านความร่วมมือกับเทศบาลนครนนทบุรี ยกระดับให้เป็นเมืองต้นแบบสุขภาวะของผู้สูงวัย ไปหาคำตอบได้ในบทสัมภาษณ์ชิ้นนี้
(Footnote)
*รศ. ดร.สมพร คุณวิชิต ยังเป็นหัวหน้าโครงการเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด เทศบาลนครปากเกร็ด (นนทบุรี) และเทศบาลเมืองทุ่งสง (นครศรีธรรมราช) ที่พุ่งเป้าพัฒนากลไกของเมืองให้พร้อมรับมือภัยพิบัติทางธรรมชาติ ตามกรอบ Resilient City ภายใต้การสนับสนุนของ บพท. (ปี 2567-2568) ด้วย
พื้นเพของอาจารย์คือการศึกษาวิจัยด้าน Resilient City ซึ่งเป็นงานแนวสิ่งแวดล้อมมากกว่า เลยสนใจว่าอาจารย์มาทำโครงการที่เกี่ยวกับเมืองสุขภาวะของผู้สูงอายุในโครงการนี้ได้อย่างไร
เมื่อกลางปี 2567 ผมได้เข้าร่วมเวิร์กช็อปที่จัดโดย บพท. ร่วมกับสมาคมเทศบาลนครและเมือง ณ โรงแรมอมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต กรุงเทพฯ เวิร์กช็อปนี้มีเป้าหมายเพื่อจับคู่นักวิจัยกับเทศบาลต่าง ๆ โดยอิงจากกรอบการทำงานและความเชี่ยวชาญที่สอดคล้องกับโจทย์การพัฒนาเมืองของแต่ละพื้นที่
แม้งานวิจัยหลักของผมจะอยู่ในประเด็นเมืองที่มีความยืดหยุ่นต่อภัยพิบัติ (Resilient City) แต่ผมก็สนใจเรื่องเมืองสุขภาวะ หรือ Healthy City มาโดยตลอด ยิ่งไปกว่านั้น หนึ่งในนักศึกษาระดับปริญญาโท สาขารัฐประศาสนศาสตร์ (MPA) ที่ผมดูแลอยู่ ก็กำลังทำวิจัยเกี่ยวกับเมืองผู้สูงวัยด้วย ทำให้ผมมีความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดและกรอบการทำงานในประเด็นนี้
เมื่อได้มีโอกาสพูดคุยกับทีมจากเทศบาลนครนนทบุรีในงานเวิร์กช็อป และพบว่าทางเทศบาลฯ มีเป้าหมายจะพัฒนาเมืองให้รองรับสังคมสูงวัยอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงยกระดับเมืองให้มีความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงควบคู่กันไป ผมจึงเห็นศักยภาพของการทำงานร่วมกัน นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการจับมือระหว่างผมกับเทศบาลนครนนทบุรี เพื่อร่วมกันพัฒนาเมืองให้มีทั้งความยืดหยุ่นและสุขภาวะที่ยั่งยืน
โครงการนี้มีกระบวนการขับเคลื่อนอย่างไรครับ
เป้าหมายของเทศบาลนครนนทบุรีคือการเป็นเมืองต้นแบบสุขภาวะของผู้สูงวัย เนื่องจากเป็นเมืองที่มีสัดส่วนผู้สูงอายุสูงที่สุดในบรรดาเทศบาลนครทั่วประเทศ โดยนายแพทย์ปิยะ ฟองศรัณย์ ผู้อำนวยการกองการแพทย์ เทศบาลนครนนทบุรี เป็นผู้นำเครื่องมือที่ชื่อ “เวชศาสตร์วิถีชีวิต” (Lifestyle Medicine: LM) มาใช้
LM คือแนวทางการดูแลสุขภาพตั้งแต่ต้นทาง ผ่านการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เสาหลักของ LM มีด้วยกัน 6 ด้าน ได้แก่ การส่งเสริมการออกกำลังกายสม่ำเสมอ การจัดการความเครียด การควบคุมน้ำหนัก การนอนหลับอย่างเพียงพอ การหลีกเลี่ยงสารเสพติด และการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัว
เสาหลักเหล่านี้จะช่วยป้องกันโรค NCDs หรือกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (Noncommunicable diseases) เช่น โรคหัวใจ ความดัน เบาหวาน อัลไซเมอร์ ไปจนถึงมะเร็ง ซึ่งล้วนเป็นผลจากพฤติกรรมการดำรงชีวิต และเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตในประเทศไทย โดยเทศบาลนครนนทบุรียังเป็นเทศบาลแห่งแรกของประเทศที่นำศาสตร์นี้มาใช้ในการดูแลสุขภาพประชาชนในระดับนโยบายเมือง
แม้ LM จะเป็นแนวคิดที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา แต่สำหรับประเทศไทยยังถือว่าเป็นเรื่องใหม่ จึงต้องมีการเรียนรู้และฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ของกองการแพทย์ เพื่อให้สามารถลงพื้นที่ สื่อสารความรู้ และสร้างความร่วมมือกับประชาชนในเขตเทศบาล
เริ่มต้นจากสร้างความเข้าใจในบุคลากรก่อนใช่ไหมครับ
ใช่ครับ กองการแพทย์เป็นเจ้าภาพหลัก ร่วมกับศูนย์เวชศาสตร์วิถีชีวิตอาเซียน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญของไทยในการอบรมเจ้าหน้าที่ให้กลายเป็นทีมผู้เชี่ยวชาญเบื้องต้น
หลังจากอบรมเสร็จ ทีมจะถูกแบ่งตามพื้นที่รับผิดชอบ โดยเทศบาลนครนนทบุรีมีศูนย์ส่งเสริมสุขภาพ 11 แห่ง ครอบคลุม 93 ชุมชน แต่ละศูนย์จะดูแลชุมชนของตนเอง มีหน้าที่ 1) ถ่ายทอดความรู้เรื่องเวชศาสตร์วิถีชีวิต 2) อบรมวิธีปฏิบัติตามหลัก 6 เสาของ LM และ 3) ติดตามผลการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องจนเห็นผลลัพธ์
นอกจากนี้ เทศบาลฯ ยังจัดอบรมให้ประชาชนโดยตรง เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการดูแลสุขภาพตนเอง โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้ด้าน LM โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้แต่ละชุมชนเสนอแนวคิดในการจัดทำ “โครงการนำร่อง” ส่งเสริมสุขภาพด้วยกิจกรรมที่เหมาะสมกับบริบทของแต่ละพื้นที่ ซึ่งจะเป็นกลไกต้นทางของการขับเคลื่อนสุขภาวะอย่างยั่งยืน
แล้วบทบาทของอาจารย์ในโครงการนี้ล่ะครับ
ผมเริ่มต้นไปพร้อมกับเทศบาลฯ ตั้งแต่ลงพื้นที่ เก็บข้อมูลเพื่อทำ City Data ออกแบบแบบประเมินความเข้าใจของภาคประชาชน และสร้างการมีส่วนร่วม โดยเปิดโอกาสให้เครือข่ายชาวบ้านจากทั้ง 93 ชุมชนเสนอแนวทางต่อยอด LM ซึ่ง บพท. ก็จะสนับสนุนงบประมาณบางส่วนร่วมกับเทศบาลฯ
อีกหนึ่งงานสำคัญคือการพัฒนาแอปพลิเคชันติดตามและประเมินผลทางสุขภาพของผู้ร่วมโครงการ ซึ่งสอดรับกับแนวทาง Smart City ที่เทศบาลฯ กำลังขับเคลื่อนอยู่
แอปพลิเคชันติดตามสุขภาพประชาชนในกรอบ LM หรือครับ
ใช่ครับ หลังจากที่ทีมกองการแพทย์ลงพื้นที่ให้ความรู้และกระตุ้นกิจกรรมตามแนวทาง LM ทางโครงการวิจัยของเราก็พัฒนาแพลตฟอร์มระบบติดตามผลสุขภาพเวชศาสตร์วิถีชีวิตนครนนท์ (Lifestyle Medicine Application) หรือชื่อย่อว่า LM-Nont โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวประชาชนสามารถเข้าใช้งานได้ 2 ช่องทาง คือ 1) ช่องทาง Line OA โดย สแกน QR Code โดยตรงหรือทาง ID แล้วพิมพ์ว่า @lmnont และ 2) แอปพลิเคชัน ‘นครนนท์’
แพลตฟอร์มนี้ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานง่าย โดยประชาชนสามารถทำการสมัครแล้วกรอกข้อมูลส่วนตัว เมื่อกรอกข้อมูลส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถทำการกรอกข้อมูลพฤติกรรมการใช้ชีวิต 6 ด้านตามหลักเวชศาสตร์วิถีชีวิต โดยตัวแพลตฟอร์มสามารถบันทึกค่า BMI และค่า BCA ซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้มาจากการวัดด้วยเครื่องวัดองค์ประกอบร่างกาย (สามารถใช้บริการได้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขของเทศบาลนครนนทบุรี – ผู้เรียบเรียง) รวมทั้งผู้ใช้งานสามารถดูกราฟเปรียบเทียบย้อนหลังได้ ทั้งกราฟเปรียบเทียบค่า BMI กราฟเปรียบเทียบค่า BCA และกราฟเปรียบเทียบการประเมินวิถีชีวิต 6 ด้าน เพื่อให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังจากที่มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
รวมทั้งยังมีช่องทางสำหรับการให้คำแนะนำสุขภาพโดยตรง ซึ่งไม่เพียงจะช่วยยกระดับการให้บริการด้านสุขภาพและการส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงวัยในพื้นที่เทศบาลนครนนทบุรี แต่ยังสร้างแรงจูงใจให้ผู้คนหันมาใส่ใจในสุขภาพของตัวเองมากยิ่งขึ้น
กล่าวโดยสรุป นี่คือการประเมินผล LM ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วม เพื่อยกระดับสุขภาวะของผู้คนใช่ไหมครับ
ใช่ครับ ล่าสุดเทศบาลฯ ยังได้จัดตั้ง “คลินิกเวชศาสตร์วิถีชีวิต” ภายในศูนย์บริการสาธารณสุขที่ 6 สนามบินน้ำ พร้อมทีมแพทย์ที่ให้คำปรึกษาด้าน LM โดยเฉพาะ และด้วยข้อมูลที่เรารวบรวมไว้ ประกอบกับแอปพลิเคชันนี้ จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่พาเทศบาลนครนนทบุรีก้าวขึ้นสู่การเป็นเมืองต้นแบบสุขภาวะผู้สูงวัยแห่งแรกของประเทศไทย และต่อยอดสู่เป้าหมาย Healthy City ได้ในอนาคต
อะไรคือข้อจำกัดหรือความท้าทายของโครงการนี้
เรายังต้องลงรายละเอียดในระบบจัดเก็บข้อมูลให้มากขึ้น เช่น เมืองมีโครงการสุขภาพอะไรบ้าง ประชาชนดูแลสุขภาพกันอย่างไร มีกลไกในการดูแลผู้ป่วยและผู้สูงวัยอย่างไร ซึ่งก็ต้องแยกย่อยตามแต่ละกลุ่มโรค เช่น โรคหัวใจ โรคความดัน ฯลฯ ที่มีวิธีดูแลไม่เหมือนกัน สิ่งเหล่านี้ยังต้องมีการเก็บและจัดการข้อมูลเพิ่มเติมอย่างรอบด้าน เพื่อนำมาปรับใช้ และเขียนเป็นโรดแมปเป็นสารตั้งต้นในการขับเคลื่อนเทศบาลนครนนทบุรีสู่ Healthy City
แล้วจากที่เริ่มโครงการนี้ พอมองเห็นศักยภาพของเมืองนนทบุรีที่จะเป็น Healthy City มากน้อยแค่ไหนครับ
ถ้าไม่นับกลไกหรือแพลตฟอร์มที่เรากำลังพัฒนา ด้านกายภาพนนทบุรีมีศูนย์บริการสาธารณสุขถึง 11 แห่ง ที่มีมาตรฐานไม่เป็นรองใคร เมืองยังมีศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุที่ตอบโจทย์กิจกรรมผู้สูงวัยซึ่งดีมาก ๆ ทั้งยังมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ พื้นที่สีเขียว พื้นที่ริมแม่น้ำให้ประชาชนได้พักผ่อนหรือออกกำลังกาย
อย่างไรก็ตาม นนทบุรียังต้องขยายพื้นที่เหล่านี้ให้ครอบคลุมกับผู้คนให้ได้มากที่สุด รวมถึงการเสริมกลไกสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ผมเองก็ได้หารือกับท่านนายกฯ (สมนึก ธนเดชากุล นายกเทศมนตรีนครนนทบุรี) เพื่อวางแนวทางขับเคลื่อนระยะยาวต่อไป
#เทศบาลนครนนทบุรี #มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ #บพท #pmua #CIAP #โปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่การเป็นเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด
“เรามีโครงสร้างพื้นฐานในการเป็นสมาร์ทซิตี้พร้อมแต่ที่ผ่านมา เรายังไม่มีกลไกในการพัฒนาบุคคลในกรอบนี้และอีสปอร์ตจะกลไกหนึ่ง ที่เริ่มต้นจากเด็กและเยาวชน” ไม่เพียงแต่เทศบาลนครนครสวรรค์จะเป็นหนึ่งในเทศบาลแห่งแรกที่ได้รับการคัดเลือกโดย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ให้เป็น เมืองอัจฉริยะ (Smart City) ตั้งแต่ปี 2564 หากแต่ในปัจจุบัน เทศบาลนครซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ…
“ผมไม่ได้ฝันว่าจะต้องมีซิลิคอนวัลเลย์ในนครสวรรค์แต่หวังว่าเราจะสามารถสร้างงานให้เด็กคนหนึ่งไม่ต้องเข้ากรุงเทพฯไม่ต้องทิ้งบ้านเกิดไปเพราะไม่มีโอกาส” “ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลพาโลกไปไกล เกมกลายเป็นสื่อที่ช่วยให้เด็กเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอย่างน่าทึ่งผมยกตัวอย่างลูกชายผม เขาเรียนอยู่ ป.1 มีเกมอยู่ 2 เกมที่เขาเล่นประจำ คือ Sprunki และ Roblox สองเกมนี้เน้นเรื่องการแปรรูปจินตนาการให้กลายเป็นรูปธรรม ตอนแรกผมก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเกมนี้หรอก จนมาศึกษา…
“ผมไม่ได้ปฏิเสธการศึกษาในระบบ แต่ถ้าเราสามารถสร้างทางเลือกให้กับเด็กที่มีความฝันจริงจังผู้ใหญ่อย่างพวกเราก็ควรต้องหาวิธีส่งเสริมพวกเขา” “สำหรับการขับเคลื่อนอีสปอร์ตให้กลายเป็นหนึ่งในกลไกการพัฒนาเมือง ผมมองออกเป็น 2 ประเด็นหลัก ประเด็นแรกคือ ผมเคยสอนวิชาอีคอมเมิร์ซ (E-commerce) ที่คณะบริหารและการจัดการ มหาวิทยาลัยเจ้าพระยา และตระหนักดีว่าสิ่งที่ทำให้ศาสตร์นี้ รวมถึงศาสตร์อื่น ๆ ที่เชื่อมโยงกับโลกดิจิทัล สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับผู้เรียน…
“อีสปอร์ตเป็นการสนับสนุนให้เด็กเข้าใจความหมายของการเล่นเกม ทั้งในแง่ของทีมเวิร์ก วินัย และการมีน้ำใจนักกีฬา” “ผมเล่นเกมมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ แต่เมื่อก่อนไม่รู้เลยว่าเกมพวกนี้มันถูกนิยามในฐานะ ‘กีฬา’ ได้ จนมาเริ่มเล่น RoV (Arena of Valor) ซึ่งนอกจากพบว่า เขามีการแข่งขันกันในระดับนานาชาติมานานแล้ว ยังทำให้ผมเข้าใจนิยามของอีสปอร์ต…
“โจทย์ที่สำคัญคือ ไม่ใช่ว่าเราจะขับเคลื่อนอีสปอร์ตอย่างไร แต่เป็น เราจะเปลี่ยนทัศนคติของผู้คนต่อการเล่นเกมในฐานะกิจกรรมสร้างสรรค์ และพัฒนาทักษะอย่างไร?" ดร.อิศรา คงมี เป็นนักวิชาการด้านภาษา…เขาเป็นอาจารย์ประจำคณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยนเรศวร โดยจบปริญญาตรีและโทในสาขานี้โดยตรง จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ University of Melbourne…
อ่าน WeCitizens เมืองนนทบุรีน่าอยู่ที่ชาญฉลาด Ebook ได้ที่ https://anyflip.com/jnmvd/zria/ Download PDF File : https://drive.google.com/file/d/1i8cV4rE0UCSgzDUjU4nk52TxKjp1Tnyo/view?usp=share_link บอกเล่าเรื่องราวมุมมองเมืองน่าอยู่ของคนเมืองนนทบุรี นำโดย นายกฯ สมนึก ธนเดชากุล นายกเทศมนตรีนครนนทบุรี (ดำรงตำแหน่ง มีนาคม 2564-…