/

เราจัดงานให้หน่วยงานรัฐก็ย่อมมีการเมืองเข้ามาบ้าง แต่พอทำงานจนเชี่ยวชาญ ก็ทำให้เรารู้ว่าจะต้องคุยกับใครอย่างไร ต้องรับมือกับปัญหาเฉพาะหน้าอย่างไร

Start
338 views
11 mins read

“ที่บ้านทำธุรกิจติดตั้งเครื่องเสียงรถยนต์มาก่อนค่ะ ทำได้พักใหญ่จนพ่อรู้สึกอิ่มตัว แกก็เลยขยับไปทำเครื่องเสียง PA หรือระบบกระจายเสียงกลางแจ้งสำหรับงานมหรสพและคอนเสิร์ต พ่อเป็นคนที่มีความครีเอทีฟสูง พอทำเครื่องเสียงไปได้สักพัก แกก็รับจัดออร์แกไนซ์พวกงานหรือเทศกาลต่างๆ ด้วยตัวเอง จนเปิดเป็นบริษัทที่รับจัดงานออร์แกไนซ์ที่ครบวงจรที่สุดในจังหวัดยะลา

เราซึมซับกับสิ่งที่พ่อทำมาตลอด แต่ตอนแรกไม่คิดจะสานต่อเลย เราอยู่กับเขามาตั้งแต่เด็ก พอเรียนจบก็อยากไปทำงานของตัวเองบ้าง ก็เริ่มจากงานในบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ก่อนจะย้ายมาทำงานในมหาวิทยาลัย อย่างไรก็ดี ความที่เรายังอยู่บ้านเดียวกัน พ่อเป็นคนควบคุมงานด้วยตัวของแกเองคนเดียว จึงเห็นว่ามีบ่อยครั้งที่พ่อต้องขอความช่วยเหลือจากคนอื่น จึงมาคิดว่าเราเองเป็นลูกแท้ๆ ช่วยพ่อได้ง่ายๆ ทำไมไม่ช่วย ซึ่งก็ประกอบกับเราเริ่มไม่ชอบวัฒนธรรมองค์กรของที่ทำงานที่เราทำอยู่ด้วย จึงตัดสินใจออกมาช่วยพ่อ

บริษัทเรารับทำอีเวนต์น่าจะมากกว่าครึ่งหนึ่งที่จัดในจังหวัดยะลา ทั้งงานของเทศบาลนครยะลา องค์การบริหารส่วนจังหวัด และองค์การบริหารส่วนตำบลต่างๆ ไม่ว่าจะประเพณีชักพระ ตักบาตรเทโว ประเพณีสงกรานต์ งาน OTOP ถนนคนเดิน ไปจนถึงงานตาดีกาสัมพันธ์ และวันมลายูเดย์ ซึ่งเป็นเทศกาลของพี่น้องชาวมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในยะลา นอกจากนี้งานบางส่วนแกก็ต้องขนทีมไปจัดที่ปัตตานีและนราธิวาส

เราเริ่มเข้ามาช่วยพ่อเมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว หลักๆ ก็ช่วยประสานงานกับลูกค้าและซัพพลายเออร์ ช่วยพรีเซนต์งาน วางแผนการจัดงาน รวมถึงด้วยความที่เราเรียนมาทางนิเทศศาสตร์ บางครั้งเราก็รับเป็นพิธีกรในงานให้ด้วยเลย (หัวเราะ) โดยงานส่วนมากคือการคิดรูปแบบงานและลงรายละเอียด เพราะลูกค้าเกือบทั้งหมดจะมีโจทย์และงบประมาณมาให้ เป็นหน้าที่ของเราและพ่อที่จะทำให้เป็นรูปเป็นร่าง ทั้งการวางผังเวที การออกแบบแสงสีเสียง ไปจนถึงการคิดกิจกรรมในงาน และการอำนวยความสะดวกให้ผู้ชม

ถามว่าทำงานกับพ่อที่มีช่องว่างระหว่างวัยมากๆ มีขัดแย้งกันบ้างไหม ไม่ค่อยเลยค่ะ เอาจริงๆ พ่อเป็นคนที่คิดงานเก่งมาก ส่วนหนึ่งเพราะแกเรียนศิลปะมาและเป็นคนชอบการเรียนรู้และชอบคิดอยู่แล้วด้วย งานที่เราทำส่วนมากเป็นงานประจำปี เชื่อไหมว่าในแต่ละปี แกคิดธีม รูปแบบงาน ไปจนถึงพิธีเปิดงานแทบไม่ซ้ำกันเลย หลายงานเราเห็นก็บอกว่า โห…พ่อคิดได้ไงเนี่ย แต่ก็มีบ้างที่แกตัน และคิดไม่ออก เราก็ไปช่วยเสริม ก็มีการถกเถียงกันเพื่อพัฒนาให้ไอเดียออกมาเวิร์คที่สุด   

เราชอบงานที่ทำอยู่มากค่ะ ไม่ใช่เพราะได้ทำกับคนเก่งๆ อย่างพ่อ แต่เนื้องานที่เราทำคือการได้เรียนรู้สิ่งใหม่อยู่ตลอดเวลา อย่างเราเป็นคนพุทธ แต่มีโอกาสจัดงานให้กับพี่น้องชาวมุสลิม เราก็ต้องเรียนรู้วัฒนธรรมของเขาเพื่อจะได้คิดงานที่ไม่ผิดหลักศาสนา ได้เรียนรู้ถึงบริบททางประวัติศาสตร์และสังคมของพื้นที่ที่เราเข้าไปจัดงาน ก็ทำให้เรามีความรู้ ได้รู้จักเมืองของเรา รู้จักผู้คนและกลุ่มต่างๆ ในเมืองมากยิ่งขึ้น


ที่สำคัญคือทำให้เรามีทักษะในการสื่อสารกับคนหลากหลาย แน่นอนที่ว่าเราจัดงานให้หน่วยงานรัฐก็ย่อมมีการเมืองเข้ามาบ้าง แต่พอทำงานจนเชี่ยวชาญ ก็ทำให้เรารู้ว่าจะต้องคุยกับใครอย่างไร ต้องรับมือกับปัญหาเฉพาะหน้าอย่างไร เหล่านี้คือสิ่งที่เราได้เรียนรู้มา ก็ทำให้เราสนุกเท่าๆ กับการได้เห็นงานที่เราจัดออกมาเป็นรูปเป็นร่างและผ่านไปได้ด้วยดี

จุติพร น่วมทอง

บริษัทอีเวนท์ออร์แกไนซ์ OPAMP 741

กองบรรณาธิการ

ในปีพ.ศ.2563-2564 หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ได้สนับสนุนและผลักดันการพัฒนาเมืองในประเทศไทยเพื่อพัฒนาเมืองแห่งการเรียนรู้ (Learning City) โดยเริ่มดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมแล้วทั้งหมด 18 เมือง 20 ชุดโครงการ และ 41 ชุดโครงการย่อย