กว๊านพะเยาจึงเป็นทั้งแหล่งทำมาหากิน แหล่งอาหารประทังชีวิต แหล่งพักผ่อน และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจ

“นักท่องเที่ยวมักถามผมว่าทำไมจึงมีบ่อน้ำผุดขึ้นมาในกว๊าน ก็ในเมื่อตรงนี้เป็นแหล่งน้ำทำไมยังมีบ่อน้ำอยู่ (หัวเราะ) คือกระทั่งคนพะเยาเองบางคนก็อาจลืมไปแล้วว่าเมื่อ 80 กว่าปีก่อน พื้นที่กว๊านตรงนี้ทั้งหมดเคยเป็นหมู่บ้าน คนที่อยู่ทันเห็นสภาพเดิมส่วนใหญ่ก็เสียชีวิตไปหมดแล้ว บ่อน้ำตรงนั้นจึงเป็นอนุสรณ์ให้เรายังจำได้อยู่ว่าเมื่อก่อนตรงนี้เคยเป็นอะไร

ผมเป็นคนตำบลบ้านตุ่น ตรงท่าเรือโบราณบ้านทุ่งกิ่ว เมื่อก่อนพ่อผมเป็นทหารรับใช้จอมพล ผิน ชุณหะวัน ที่กรุงเทพฯ แกย้ายมาอยู่พะเยาช่วงสงครามโลก สมัยนั้นพะเยายังมีถนนไม่ทั่วถึง การจะเดินทางไปโรงเรียนซึ่งอยู่ในเขตตัวเมือง คือต้องนั่งเรือข้ามกว๊านไป ผมจำได้ว่าค่าเรือรอบหนึ่งแค่ 50 สตางค์ ราคาเท่ากับข้าวสารหนึ่งกิโลกรัม สมัยก่อนคนเรือหาเงินได้วันละ 10 บาทนี่ก็ดีใจกันมากแล้ว

พ่อผมเสียชีวิตตั้งแต่ผมยังเด็ก สมัยนั้น พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัน เป็นนายกรัฐมนตรี ท่านยังส่งเงินมาช่วยงานศพพ่อ พอไม่มีพ่อ ผมก็เลยทำงานรับจ้างช่วยแม่มาตั้งแต่เด็ก หาปลาในกว๊านบ้าง ไปทำสวนบ้าง แล้วแต่ช่วง จนมีการขุดพบวัดติโลกอารามนี่แหละ จึงได้งานขับเรือพานักท่องเที่ยวไปไหว้พระ


เรื่องเริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2526 เกาะที่เป็นที่ตั้งของวัดตอนนี้ เมื่อก่อนเป็นเกาะเล็กๆ มีต้นไม้ใหญ่ตั้งอยู่ วันหนึ่งเกิดพายุและต้นไม้หัก ชาวบ้านก็ทราบอยู่บ้างว่าแถวนั้นเคยเป็นวัด ก็เลยพากันไปขุดหาพระยอดขุนพล ซึ่ง เดี๋ยวนี้เช่ากันเป็นแสนเลยนะครับ ขุดๆ กันไป ก็มาพบพระพุทธรูปปางมารวิชัยอยู่ใต้รากต้นไม้ลึกลงไปกว่าสองเมตร ทางจังหวัดก็เลยอัญเชิญพระพุทธรูปไปแห่รอบเมือง 7 วัน  7 คืน ก่อนจะประดิษฐานที่วัดศรีอุโมงค์คำ

จนมาปี 2550 นี่แหละที่มีการค้นพบศิลาจารึกที่ระบุว่าวัดนี้สร้างขึ้นสมัยพระเจ้าติโลกราช ซึ่งก็ราว 500 ปีแล้ว ท่านธนเษก อัศวานุวัตร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาสมัยนั้นก็มีความคิดในการบูรณะวัดร้างกลางกว๊านแห่งนี้ โดยอัญเชิญพระพุทธรูปที่ขุดพบเมื่อ 24 ปีที่แล้วมาประดิษฐาน พระพุทธรูปได้รับการตั้งชื่อว่า ‘หลวงพ่อศิลา’ โดยวัดเกาะกลางแห่งนี้ถูกเรียกว่า ‘วัดติโลกอาราม’ 

ตั้งแต่นั้นใครมาเยือนพะเยา ก็มักจะนั่งเรือมานมัสการหลวงพ่อบนเกาะนี้ ซึ่งผมก็ได้งานเป็นคนขับเรือข้ามฟากไปด้วย ช่วงไหนไม่มีงานก็ไปรับจ้าง และก็ทำงานเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านไปพร้อมกัน

ต้องชื่นชมวิสัยทัศน์ของท่านธนเษก ที่ทำให้วัดแห่งนี้กลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ประจำเมืองพะเยา โดยมีการจัดประเพณีเวียนเทียนรอบกว๊านในทุกวันมาฆบูชา วิสาขาบูชา และอาสาฬหบูชา ปีละสามครั้ง ที่นี่น่าจะเป็นแห่งเดียวในประเทศด้วยนะครับ ที่มีการเวียนเทียนด้วยเรือรอบเกาะ แล้วพอจัดช่วงเย็นที่พระอาทิตย์ค่อยๆ ตกจนมืดแล้วเห็นแสงเทียนรอบวัด ภาพกว๊านพะเยายามเย็นสวยงามอยู่แล้ว พอได้แสงเทียนกลางน้ำก็งดงามเข้าไปใหญ่

กว๊านพะเยาสำหรับจึงเป็นทั้งแหล่งทำมาหากิน แหล่งอาหารประทังชีวิต แหล่งพักผ่อน และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจ”   

สุทัศน์ ปทุมวงศ์
คนรับจ้างพายเรือในกว๊านพะเยา

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

อ่านเสียงแก่งคอย เสียงของเมืองที่ก้าวข้ามบาดแผลประวัติศาสตร์มาสู่เมืองแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต

WeCitizens ชวนผู้อ่านเรียนรู้เมืองแก่งคอย เมืองประวัติศาสตร์ที่มีบาดแผลจากสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ในวันนี้ แก่งคอยเปลี่ยนบาดแผลแห่งประวัติศาสตร์เป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตอ่านความคิด วิถีชีวิตผู้คนแก่งคอยได้ที่ WeCitizens : เสียงแก่งคอย, สระบุรี - WeCitizens Flip PDF…

1 year ago

ฟังเสียงนครสวรรค์ เมืองศูนย์กลางแห่งภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน

WeCitizens ชวนผู้อ่านเดินทางไปจังหวัดนครสวรรค์ เมืองที่อยู่กึ่งกลางระหว่างภาคเหนือและภาคกลาง เมืองที่เป็นจุดเปลี่ยนถ่ายการเดินทางทางน้ำในอดีต นครสวรรค์จึงเป็นเมืองสำคัญอีกเมืองหนึ่งในฐานะของเมืองที่เป็นศูนย์กลาง (Hub) ทั้งด้านการค้า การคมนาคม และนำมาซึ่งความหลากหลายทางวัฒนธรรมของผู้คนหลากหลายกลุ่ม โดยเฉพาะชาวจีนโพ้นทะเล E-book ฉบับเสียงนครสวรรค์ฉบับนี้ จะพาผู้อ่านทุกคนไปเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวนครสวรรค์ วัฒนธรรมชาวจีนและเทศกาลตรุษจีนที่มีชื่อเสียงโด่งดังในระดับประเทศและนานาชาติ และไปฟังเสียงผู้คนชาวนครสวรรค์ที่มองบ้านเมืองของตนเองตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน…

1 year ago

แก่งคอย…ย้อนรอยสงครามโลกเปลี่ยนบาดแผลประวัติศาสตร์สู่เมืองเรียนรู้ตลอดชีวิต

นอกจากจะถูกจดจำจากเพลงดังที่มีชื่อเดียวกับชื่ออำเภอของ ก้าน แก้วสุพรรณ และเพลงฮิตของคาราบาว ซึ่งสื่อถึงที่มาของชื่อ ‘แก่งคอย’ อย่าง ‘แร้งคอย’ หากไม่ใช่คนในพื้นที่ อาจนึกภาพไม่ออกว่าอำเภอของจังหวัดสระบุรีที่เป็นปากทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และประตูสู่ภาคอีสาน มีความสำคัญอย่างไร? ไม่เพียงเป็นเมืองท่าที่สำคัญในการขนส่งสินค้าผ่านแม่น้ำป่าสักและทางรถไฟ อำเภอแก่งคอย ยังเป็นจุดเริ่มต้น (ต่อจากอำเภอเมืองสระบุรี)…

1 year ago

ขอนแก่นโมเดล
The Legacy of City Development

เพราะเมือง คือ ผู้คน และผู้คน คือ ตัวแปรสำคัญที่สุดในการพัฒนาเมือง ความเจริญงอกงามทางวัฒนธรรมหรือการเติบโตทางเศรษฐกิจ และมาตรฐานคุณภาพชีวิต จึงขึ้นอยู่กับศักยภาพ ความสามารถ และความร่วมมือร่วมใจของคนในเมืองเป็นฐานสำคัญ กว่าทศวรรษที่ ‘ขอนแก่นโมเดล’ เป็นโมเดลการพัฒนาเมืองที่ได้รับการยอมรับ และพูดถึงในฐานะแนวคิดและปฏิบัติการการพัฒนาเมืองที่ก้าวหน้ามากที่สุด…

1 year ago

“ขอนแก่นเราไม่ใช่เป็นเมืองที่นั่งรอคนเข้ามาทำนู่นนี่ให้”

เมืองขอนแก่น ผู้คน กับการเรียนรู้เพื่อก้าวต่อไป           ไม่มีภูเขา ไม่มีแม่น้ำสายใหญ่ อยู่ไกลโพ้นจากชายทะเล แหล่งท่องเที่ยวมีชื่อ หรือทรัพยากรธรรมชาติสำคัญก็น้อยนิด แต่มีคนที่เอาจริงเอาจังกับการพัฒนาเมืองกลุ่มใหญ่ที่กล้าคิดกล้าฝัน พยายามทำทุกลู่ให้ความหวังเป็นจริงได้ นี่คือปัจจัยที่ทำให้ช่วงเวลาเพียงกึงศตวรรษนำพาเมืองขอนแก่น เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด  ‘ผู้คน และความร่วมมือ…

1 year ago

“สำนึกรักท้องถิ่น ถือเป็นหัวใจสำคัญของจิตสำนึกของคนขอนแก่น”

“เมื่อพูดถึงเรื่องเมืองแห่งการเรียนรู้ หรือ Learning City ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่รับผิดชอบของเทศบาลนครขอนแก่น เราดำเนินงานตามวิสัยทัศน์ที่ว่า ‘พัฒนาเมืองสู่สากล สร้างสังคมแห่งความสุข’ การที่เมืองจะพัฒนาได้และสร้างสังคมที่เป็นสุข ต้องเริ่มที่ ‘คน’ คนที่เป็นกำลังสำคัญในการร่วมกันพัฒนาเมือง ยกตัวอย่างในกรณีที่เปรียบเทียบง่าย ๆ เช่น ถ้าเราจะพัฒนาขอนแก่นเป็นเมือง…

1 year ago