“การได้เห็นคนมาไหว้เจ้าพ่อเจ้าแม่แล้วมีความอิ่มเอมกลับไป หรือคนมาขอพรแล้วสมหวัง พี่คิดว่างานที่ทำอยู่นี้ช่วยหล่อเลี้ยงจิตใจมากๆ แล้ว”

“พี่เป็นคนพิจิตร มาเรียนมหาวิทยาลัยที่พิษณุโลก จบมาก็ไปทำงานกรุงเทพฯ อยู่พักหนึ่ง และมีครอบครัว มีลูกสองคน อยากให้ลูกกลับมาเรียนแถวบ้าน พี่เลยย้ายมาอยู่พิษณุโลก เพราะพี่มองว่านี่เป็นเมืองที่โรงเรียนมีมาตรฐานดี และมีบรรยากาศที่เหมาะสมต่อการเรียนรู้ของลูกๆ

พี่เป็นแม่บ้านค่ะ สามีจะทำงานเป็นหลัก พอย้ายมาพิษณุโลก เราก็ทุ่มเวลากับการเลี้ยงลูก จนลูกคนโตสอบเข้าโรงเรียนจุฬาภรณ์ (โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย พิษณุโลก) ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำ พี่ก็เลยมีเวลาว่าง จึงคิดหางานเสริม พอดีกับมีเพื่อนมาบอกว่าศาลเจ้าปุ่นเถ่ากง-ม่าและศาลเจ้าพ่อเสือ ตรงตลาดใต้ กำลังหาเสมียนมาทำบัญชี พี่ก็เลยสมัครงานนี้ไป ตอนนี้ทำมาได้ 3 ปีแล้ว

ตอนแรกที่มาทำ พี่เห็นว่าศาลเจ้ายังคงมีรูปแบบที่ดั้งเดิมอยู่ คือขายธูปเทียนน้ำมันให้คนมาไหว้เจ้าพ่อเจ้าแม่ แล้วก็กลับไป ศาลเจ้าจะคึกคักก็เฉพาะตอนมีเทศกาล ได้แก่ ตรุษจีน เทศกาลง่วนเซียว (เทศกาลโคม) และสารทจีน นอกจากนั้นศาลเจ้าก็จะเงียบๆ จะมีเฉพาะผู้ที่ศรัทธาที่เป็นคนในตลาดและคนจากที่อื่นหมุนเวียนมาไหว้เจ้าเป็นประจำ แต่ก็จะดึงดูดเฉพาะคนที่ศรัทธาอยู่แล้ว ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเข้ามา 

ระหว่างนั้นพี่ไปเห็นศาลเจ้าแห่งอื่นๆ ในจังหวัด โดยเฉพาะโรงเจไซทีฮุกตึ๊งบนเขาสมอแคลง เขามีวัตถุมงคลให้เช่าบูชา มีจุดถ่ายรูปเช็คอิน และมีโรงเจ ซึ่งดึงดูดให้คนมาเยือนราวกับสถานที่ท่องเที่ยว พี่ก็คิดว่าศาลเจ้าเราน่าจะมีอย่างเขาบ้าง คือไม่ถึงกับต้องเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแฟนซีอะไรนักหรอก แค่มีของให้เช่าบูชา หารายได้ให้ศาลเราบ้างเท่านั้นเลย

พี่ก็เลยไปคุยกับคณะกรรมการศาลเจ้าว่าเราน่าจะทำการตลาดบ้าง เอาโคมจีนมาขายเป็นที่ระลึกเชิงสิริมงคล งานสารทจีนก็พับกระดาษทำภูเขาเงิน ภูเขาทองขาย และพี่ก็ไปเรียนกับผู้ดูแลโรงเจเพื่อทำอ่วงมึ้ง หรือม่านเพ้าเส้นๆ แบบจีนโบราณ เพื่อเอามาจำหน่ายที่ศาลเจ้า ดีที่คณะกรรมการศาลเจ้าชุดนี้ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ เขาก็เห็นดีด้วยว่าศาลเราน่าจะหารายได้ และสร้างกิมมิกดึงดูดให้คนมาไหว้เจ้ามากขึ้น คือถ้ากรรมการเขาไม่เอาด้วย เราก็คงทำไม่ได้น่ะ

แล้วก็เพราะความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าพ่อเจ้าแม่และเจ้าพ่อเสือด้วย กลายเป็นว่าพักหลังๆ มีคนมาขอพร ก็ได้ในสิ่งที่ต้องการ เขาก็เลยมาบูชาวัตถุมงคลกลับไปมากขึ้น และก็ประกอบกับที่ทางอาจารย์ใหม่ (ธนวัฒน์ ขวัญบุญ) จากมหาวิทยาลัยนเรศวร เขามาทำโครงการย่านเก่าเล่าเรื่องในย่านตลาดใต้ โดยใช้สื่อโซเชียลประชาสัมพันธ์ย่านแห่งนี้ จึงมีคนพิษณุโลกและนักท่องเที่ยวมาเยือนตลาดใต้และแวะสักการะเจ้าพ่อเจ้าแม่ที่ศาลเจ้ามากขึ้น

จริงๆ หน้าที่ของพี่คือการทำบัญชีค่ะ แต่ความที่เจ้าหน้าที่ประจำศาลเจ้ามีอยู่สองคน ก็เลยทำเกือบทุกหน้าที่ จะบอกว่าถ้าเราไม่ทำสินค้าหรือวัตถุมงคลให้คนบูชา งานพี่ก็จะไม่เยอะหรอก รอรับเงินเดือนเขาสบายๆ แต่อีกมุม เรารับเงินเดือนเขาแล้วนะ เราศรัทธาศาลเจ้าสองแห่งนี้ด้วย ก็อยากให้คนมากันเยอะๆ และช่วยศาลเจ้าหารายได้ให้มากๆ ด้วย คือแทนที่จะได้แค่ค่าธูปเทียน 20 บาท เราทำกระทงขาย 3 อัน 100 บาท รวมน้ำมันตะเกียงเป็นชุด หรือพวกของไหว้อื่นๆ เอย ก็สร้างมูลค่าเพิ่มได้ คนมากันเยอะขึ้น เราก็ไม่เหงาด้วย

ทุกวันนี้ศาลเจ้าปุ่นเถ่ากง-ม่าและศาลเจ้าพ่อเสือในตลาดใต้กลายเป็นจุดเช็คอินใหม่ของนักท่องเที่ยวสายมูเตลูไปแล้ว (หัวเราะ) ก็ดีใจนะ ที่พี่เป็นส่วนหนึ่งทำให้ศาลเจ้าเป็นที่รู้จัก แต่จริงๆ อย่างที่บอก หัวใจสำคัญคือความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าพ่อเจ้าแม่ต่างหาก ที่ใครมาขอพรหรือบนบานศาลกล่าวอะไรไว้แล้วก็ได้ เขาก็เอาไปบอกต่อ ทีนี้ เขาก็กลับมาทำบุญ มีงานเทศกาลอะไร ศาลเจ้าขาดอะไร เหล่าคนที่เคยมาไหว้เขาก็ยินดีช่วยเหลือเต็มที่

ถึงพี่จะเป็นคนสอนวิธีดูเลขเซียมซีศาลเจ้าพ่อเสือ แต่พี่ก็ไม่เคยซื้อล็อตเตอรี่ค่ะ (หัวเราะ) เลยไม่เคยขอให้ถูกรางวัล แต่ก็ขอพรทั่วๆ ไปอยู่แล้ว หลักๆ ก็แค่อยากให้ลูกๆ พี่ประสบความสำเร็จในชีวิตแค่นั้นเลย ส่วนงานที่ทำ นอกจากได้รายได้เลี้ยงชีพแล้ว การได้เห็นศาลเจ้ามีการพัฒนาไปในทิศทางที่ดี เห็นคนมาไหว้เจ้าพ่อเจ้าแม่แล้วมีความอิ่มเอมกลับไป หรือคนมาขอพรแล้วสมหวัง พี่ก็คิดว่างานที่ทำอยู่นี้ช่วยหล่อเลี้ยงจิตใจมากๆ แล้ว”

สุธาสินี จั่นทับ
เจ้าหน้าที่ศาลเจ้าปุ่นเถ่ากง-ม่า และศาลเจ้าพ่อเสือ พิษณุโลก

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

[THE RESEARCHER]<br />ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์<br />หัวหน้าโครงการวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด เทศบาลเมืองลำพูน<br />นักวิจัยจากสถาบันวิจัยพหุศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

พลังคน พลังโคมลำพูน: เมืองเล็ก ๆ ที่เปี่ยมไปด้วยพลังสร้างสรรค์ แม้ ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์ เป็นคนเชียงใหม่ เธอก็หาใช่เป็นคนอื่นคนไกลสำหรับชาวลำพูนเพราะก่อนจะเข้ามาขับเคลื่อนงานวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดกับเทศบาลเมืองลำพูน เธอได้ทำวิจัยเกี่ยวกับเมืองแห่งนี้มาหลายครั้ง โดยเฉพาะโครงการขับเคลื่อนเยาวชนเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเป็นพลเมืองของเมืองแห่งการเรียนรู้ของ UNESCO ในปี 2566-2567 - นั่นล่ะ…

3 days ago

[THE CITIZENS]<br />ปริยาพร วีระศิริ<br />เจ้าของแบรนด์ผ้าไหม “อภิรมย์ลำพูน”

“เป็นสิ่งวิเศษที่สุด ที่ผ้าไหมของจังหวัดลำพูนได้ปรากฏต่อสายตาผู้คนทั้งในและต่างประเทศ ทั้งเมื่อครั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงให้การส่งเสริม และทรงฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ และกระทั่งในปัจจุบัน สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 10 ก็ทรงส่งเสริมผ้าไหมไทย และฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญเช่นกัน ดิฉันเป็นคนลำพูน มีความภูมิใจในงานหัตถศิลป์การทอผ้าไหมยกดอกนี้มาก ๆ   และตั้งใจจะรักษามรดกทางวัฒนธรรม   ทำหน้าที่ส่งต่อถึงคนรุ่นต่อไป…

1 week ago

[THE CITIZENS]<br />ไชยยง รัตนอังกูร<br />ผู้ก่อตั้ง ลำพูน ซิตี้ แลป

“ความที่โตมาในลำพูน เราตระหนักดีว่าเมืองเรามีต้นทุนทางวัฒนธรรมที่สูงมาก ทั้งยังมีบรรยากาศที่น่าอยู่ อย่างไรก็ดี อาจเพราะเป็นเมืองขนาดเล็ก ลำพูนมักถูกมองข้ามจากแผนการพัฒนาของประเทศ เป็นเหมือนเมืองที่มีศักยภาพ แต่ยังไม่ถูกปลุกให้ตื่นความที่เราเคยทำงานที่ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (ปัจจุบันคือสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA - ผู้เรียบเรียง) ได้เห็นตัวอย่างความสำเร็จของกระบวนการพัฒนาย่านด้วยกรอบพื้นที่สร้างสรรค์ในหลายพื้นที่…

1 week ago

[THE CITIZENS]<br />ธีรธรรม เตชฤทธ์<br />ประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดลำพูน

“ผมเป็นคนลำพูน และชอบทำกิจกรรมนอกห้องเรียนมาตั้งแต่เด็ก ปัจจุบันเป็นประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดลำพูน ควบคู่ไปกับกำลังศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จากประสบการณ์การทำงานในสภาฯ ทำให้ผมเห็นว่า เยาวชนลำพูนมีศักยภาพที่หลากหลาย แต่สิ่งที่ขาดไปคือเวทีที่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงความสามารถและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากการสนับสนุนจากโรงเรียนหรือโครงการของภาคเอกชน ปี 2567 พี่อร (ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์…

1 week ago

[THE CITIZENS]<br />ชนัญชิดา บุณฑริกบุตร<br />ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองลำพูน

“อาคารหลังนี้แต่ก่อนเป็นที่ประทับของเจ้าราชสัมพันธวงษ์ลำพูน (พุทธวงษ์ ณ เชียงใหม่) น้องเขยของเจ้าจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าหลวงองค์สุดท้ายของลำพูน อาคารถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2455 หลังจากนั้นก็ถูกขายให้พ่อค้าชาวจีนไปทำเป็นโรงเรียนหวุ่นเจิ้ง สอนภาษาจีนและคณิตศาสตร์ โรงเรียนนี้เปิดได้ไม่นานก็ต้องปิด เพราะสมัยนั้นรัฐบาลเพ่งเล็งว่าอะไรที่เป็นของจีนจะเกี่ยวข้องกับลัทธิคอมมิวนิสต์ แต่หนูก็ไม่รู้หรอกว่าโรงเรียนนี้เกี่ยวข้องหรือเปล่า (ยิ้ม)  จากนั้นอาคารก็ถูกเปลี่ยนมาเป็นโรงเรียนมงคลวิทยาในปี…

2 weeks ago

[THE CITIZENS]<br />นงเยาว์ ชัยพรหม<br />คนทำโคมจากชุมชนชัยมงคล

“เราโตมากับวัฒนธรรมของคนลำพูน ชอบไปเดินงานปอย ร่วมงานบุญ ก่อนหน้านี้ก็เคยทำงานรับจ้างทั่วไป จนเทศบาลฯ มาส่งเสริมเรื่องการทำโคม โดยมีสล่าจากชุมชนศรีบุญเรืองมาสอน เราก็ไปเรียนกับเขา ตอนนี้อาชีพหลักคือการทำโคม ทำมาได้ 2 ปีแล้ว  สำหรับเรา โคมคืองานศิลปะ เป็นสัญลักษณ์และมรดกที่ยึดโยงกับวัฒนธรรมของคนบ้านเรา ตอนแรกเราไม่มีความคิดเลยว่ามันจะกลายมาเป็นอาชีพได้…

2 weeks ago