“คนอื่นเขาไม่สนใจหรอกว่าเมืองเรามีอะไร เขาสนใจว่าเมืองเราจะให้อะไรกับเขามากกว่า”

“สำหรับพี่ พิษณุโลกเป็นเมืองเสน่ห์หลบในน่ะ… คือมันเป็นเมืองที่มีเสน่ห์นะ แต่คุณจะไม่มีทางพบเจอ ถ้าเพียงแค่มองผ่านๆ

ถ้าให้เปรียบก็เหมือนผู้หญิงคนหนึ่งที่หน้าตาอาจไม่ได้สวยเด่นอะไร แต่พอคุณได้นั่งคุย ได้ทำความรู้จัก ผู้หญิงคนนี้อาจมีเสน่ห์มากไปกว่าผู้หญิงสวยๆ หลายคนเสียอีก แต่ก็เพราะเมืองเรามันเป็นเมืองเสน่ห์หลบในแบบนี้ ความท้าทายของคนที่ทำงานที่เกี่ยวกับเมือง คือการสื่อสารเสน่ห์ของเมืองเมืองนี้ออกไปให้คนอื่นๆ ได้รู้จัก

ในฐานะที่พี่เป็นเจ้าของบริษัท พาวเวอร์พลัสครีเอชั่น จำกัด ซึ่งทำงานด้านการจัดอีเวนท์และสัมมนาในเมืองพิษณุโลก รวมถึงทำงานหอการค้าจังหวัดพิษณุโลกมาหลายปี พี่พอจะถอดดีเอ็นเอของเมืองเมืองนี้มาได้ 4 เรื่องด้วยกัน ได้แก่ หนึ่ง. การเป็นเมืองประวัติศาสตร์ สอง. เรื่องอาหารการกิน สาม. เมืองสุขภาพ หรือ Wellness City เพราะเป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลและสถานบริการสุขภาพที่ครอบคลุมตั้งแต้ต้นน้ำจนปลายน้ำ และเรื่องสุดท้าย คือการเป็นเมืองสำหรับจัดกิจกรรมด้านการกีฬา จากทำเลที่เป็นศูนย์กลางของภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งง่ายต่อการเข้าถึงทั้งภาคเหนือ กลาง และอีสาน พิษณุโลกจึงเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งกีฬาทั้งระดับภูมิภาค ระดับประเทศ ไปจนถึงระดับนานาชาติหลายครั้ง

และด้วยดีเอ็นเอที่มาพร้อมกับทำเล สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ หรือ TCEB ก็เข้ามาที่พิษณุโลก ชวนพวกเรา (หอการค้าจังหวัดพิษณุโลก) เสนอชื่อเป็น MICE City หรือเมืองแห่งการจัดประชุมและนิทรรศการ โดยองค์กรเขาจะทำการรับรองให้ ถ้าเรานำเสนอข้อมูลของเมืองให้ผ่าน 41 ตัวชี้วัดใน 8 ด้าน พวกพี่ก็เลยรวมข้อมูลและยื่นตามนั้น จนพิษณุโลกได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2563 เป็นจังหวัดที่ 9 ของประเทศ แต่นั่นล่ะ หลังประกาศไม่นาน โควิด-19 ก็ระบาดใหญ่ คนในเมืองเลยไม่รู้จักว่าอะไรคือ MICE City และกิจกรรมเกี่ยวกับการจัดประชุมสัมมนาก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา

จนปีที่แล้วที่ทุกอย่างเริ่มฟื้นฟู เราก็เลยกลับมาสื่อสารเรื่องนี้อีกครั้งไปพร้อมกับการลงมือทำ ซึ่งก็ได้ TCEB นี่แหละที่ช่วยสนับสนุนดึงงานใหญ่ๆ เข้าสู่จังหวัด หนึ่งในนั้นคือการมีโอกาสได้ร่วม bidding เพื่อเป็นเจ้าภาพงานเลอแทปไทยแลนด์ (L’Etape Thailand by Tour De France) การแข่งขันปั่นจักรยานระดับนานาชาติลิขสิทธิ์ของตรูเดอร์ฟรองส์ ซึ่งเป็นการแข่งขันจักยานที่ติดอันดับ 1 ใน 10 การแข่งขันกีฬายอดนิยมอันดับโลก โดยผู้ที่จะได้เป็นเจ้าภาพต้องเป็นเมือง MICE City เท่านั้น

ซึ่งนอกจากพิษณุโลกที่ยื่นขอเป็นเจ้าภาพ ก็มี อุดรธานี นครราชสีมา และขอนแก่น เป็นคู่แข่ง ทางหอการค้าเราก็ทำพรีเซนเทชั่นส่งให้ทางฝรั่งเศสพิจารณาทางออนไลน์ พี่ก็ทำวิดีโอนำเสนอศักยภาพของเมือง พร้อมดึงเอาคอมมูนิตี้ของคนปั่นจักรยานทางมืออาชีพและมือสมัครเล่นเกือบ 5,000 คนมานำเสนอ ให้ทางนั้นเห็นว่าเมืองเรามีบรรยากาศของการปั่นจักรยานจริงๆ นะ ก็ปรากฏว่าพิษณุโลกเราได้คะแนนในการนำเสนอเป็นอันดับ 1

จากนั้นเราก็ทำกิจกรรมนำร่องชื่อ Yellow Day ชวนอินฟลูเอนเซอร์ระดับประเทศมาปั่นจักรยานชมเมือง หนึ่งในนั้นคือ คุณวีรศักดิ์ โคว์สุรัตน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งพอเราประชาสัมพันธ์ และมีกิจกรรมนำร่อง ภาครัฐก็ตื่นตัว เสกถนนใหม่ให้เรียบร้อยมีและความพร้อมต่อการปั่นจักรยายหลายสายทั่วเมืองเลยทันใจเลย โดยจะเคลมว่าการเป็น MICE City กับการจัดงานระดับนานาชาติ มีส่วนพัฒนาเมืองให้เห็นเป็นรูปธรรมได้จริง ก็ไม่เกินไป

ท้ายที่สุดเราก็ได้เป็นเจ้าภาพงานนี้ไป และเพิ่งจัดการแข่งขันเลอแทปพิษณุโลกสนามแรกเมื่อเดือนธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา

ถามว่าแล้วพี่มีส่วนร่วมกับโครงการเมืองแห่งการเรียนรู้ตลาดใต้ตรงไหน? ก็หลายเรื่องเลยค่ะ เพราะพี่คุ้นเคยกับอาจารย์ใหม่ดี (อาจารย์ธนวัฒน์ ขวัญบุญ หัวหน้าโครงการ) จึงได้ไปร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนมุมมองกับชาวตลาดใต้ รวมถึงอย่างงาน Yellow Day ที่ผ่านมา พี่ก็ชวนอินฟลูเอนเซอร์มาปั่นจักรยานเที่ยวตลาดใต้ด้วย เพราะตลาดแห่งนี้สะท้อนคาแรกเตอร์ดั้งเดิมของตลาดเมืองพิษณุโลก ในทางกลับกัน พี่ยังขอวิดีโอที่ทางทีมอาจารย์ใหม่ทำ ส่งไปให้ทางกรรมการเลอแทปดู เพื่อให้เห็นถึงศักยภาพความเป็นเมืองท่องเที่ยวของเราด้วย

พี่มองว่านี่เป็นโครงการที่ดี เพราะมันช่วยจุดประกายให้ทุกคนเห็นพื้นที่ด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแห่งใหม่ๆ ในเมืองของเรา ซึ่งมันมีย่านที่มีอัตลักษณ์ชัดเจนแบบนี้อีกหลายย่านมาก เช่น ย่านสถานีรถไฟที่ทางเราเคยร่วมกับคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ม.นเรศวร ขับเคลื่อนมาก่อน หรือ ตลาด 120 ปีวังทอง ในอำเภอวังทอง ที่ยังมีกลุ่มอาคารไม้ริมแม่น้ำดั้งเดิมอยู่   

และเพราะเรามีศักยภาพตามย่านเล็กๆ เหล่านี้ พี่จึงอยากให้มีจุดที่เราจะสามารถสร้างสะพานการเล่าเรื่องเมืองให้เชื่อมโยงกัน ในแบบที่ในแต่ละกลุ่มเป้าหมายต้องการ เพราะจริงๆ แล้วพิษณุโลกมันสามารถทำสินค้าทางการท่องเที่ยวที่เฉพาะกลุ่ม หรือ Niche ได้

พี่ยังเคยบอกอาจารย์ใหม่เลยว่า โครงการย่านเก่าเล่าเรื่องในตลาดใต้น่ะดีมากแล้ว แต่จะดีกว่านี้อีกถ้าเราสามารถสร้างให้มันเฉพาะไปอีกว่า ย่านเก่าเล่าเรื่องเนี่ย จะเล่าให้ใครฟัง ให้ผู้สูงอายุฟัง ให้คนรุ่นใหม่ฟัง ให้นักท่องเที่ยวฟัง หรือให้นักลงทุนฟัง เราออกแบบเนื้อหา เพื่อโยงให้โครงการที่เราทำตอบวัตถุประสงค์การพัฒนาเมืองในทิศทางใดทิศทางหนึ่งได้หมด

เพราะสำหรับพี่คนอื่นเขาไม่สนใจหรอกว่าเรามีอะไร เขาสนใจว่าเราจะให้อะไรกับเขามากกว่า ซึ่งมันไม่ใช่แค่ในย่านตลาดใต้ แต่หมายรวมถึงเมืองพิษณุโลกทั้งเมือง โจทย์ของเราคือ จะสื่อสารเมืองของเราออกไปยังไงมากกว่า”


ดร.พันธุ์ทิพา ขวัญทองอินทร์
รองประธานหอการค้าจังหวัดพิษณุโลก
นายกสมาคมเครือข่ายไมซ์ภาคเหนือตอนล่าง

https://www.powerpluscreation.com/

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

THE INSIDER : ณัฐธิยาภรณ์ อ้วนวงศ์ นักวิจัยโครงการเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด ร้อยเอ็ด และนักวิเคราะห์นโยบายและแผน กองยุทธศาสตร์และงบประมาณ เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด

“หอโหวดเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่หลังจากนี้คือกลไกที่เทศบาลต้องทำงานร่วมกับภาคประชาชนและนักวิชาการ ในการกำหนดทิศทางเมืองให้ร้อยเอ็ดพร้อมรับการท่องเที่ยว และทำให้เมืองมีความน่าอยู่ สำหรับผู้คนในเมืองพร้อมกันไปด้วย” “เราเกิดที่ร้อยเอ็ด เรียนมัธยมที่นี่ ก่อนไปเรียนระดับมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ ก่อนหน้านี้ สักเกือบ 10 ปีที่แล้ว เราไม่เคยมีความคิดจะกลับมาทำงานที่บ้านเกิดเลยนะ เพราะไม่เห็นโอกาสอะไรในชีวิตในภาพจำเดิมของเรา ร้อยเอ็ดเป็นเมืองผ่าน ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อ ไม่มีแหล่งธรรมชาติสวยๆ…

5 days ago

WeCitizens : The Concept

ชวนอ่าน เบื้องหลังแนวคิดการขับเคลื่อนงานพัฒนาเมืองด้วยงานวิจัย องค์ความรู้ และนวัตกรรม ความร่วมมือ และบูรณการระหว่าง บพท. และสมาคมเทศบาลนครและเมือง ก่อเกิดโครงการ "โปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (CIAP) ดำเนินการระหว่างปีพ.ศ. 2567-2568 กับผู้นำเมือง และเทศบาล…

7 days ago

WeCitizens เมืองร้อยเอ็ด : ก้าวสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด

WeCitizens : ร้อยเอ็ดเมืองน่าอยู่อย่างชาญฉลาด (ฉบับที่ 1) เปิดความคิด ความหวัง และโอกาสของการพัฒนาเมืองร้อยเอ็ดที่รัก นำโดยนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด คุณบรรจง โฆษิตจิรนันท์ คณะทำงานเจ้าหน้าที่เทศบาล และหัวหน้าโครงการวิจัยร้อยเอ็ดเมืองน่าอยู่อย่างชาญฉลาด ผศ. ดร.ชัญญรินทร์…

1 month ago

City View : ๑๐๑ เมืองรองที่ไม่เป็นรองใคร

ร้อยเอ็ดอยู่ห่างจาก ‘สะดืออีสาน’ พื้นที่ที่ถูกปักหมุดให้เป็นจุดศูนย์กลางของภาคอีสานในอำเภอโกสุมพิสัย มหาสารคาม เพียง 60 กิโลเมตร ในตำนานอุรังคธาตุ (ตำนานพระธาตุพนม) กล่าวว่า ‘สาเกตนครร้อยเอ็ดประตู’ (ชื่อเดิม) เมืองนี้ มีประตูเท่าจำนวนเมืองขึ้น ‘ร้อยเอ็ดเมือง’ สะท้อนให้เห็นความรุ่งเรืองจากการเป็นศูนย์กลางอำนาจและการคมนาคมของภูมิภาคมาตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 21อีกทั้ง ส่วนหนึ่งของพื้นที่ยังเป็นที่ตั้งของทุ่งกุลาร้องไห้ ที่ราบขนาดใหญ่กว่า 2 ล้านไร่ ทำให้ในเวลาต่อมา ร้อยเอ็ดจึงเป็นอู่ข้าวที่ผลิตข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาที่ใหญ่ และมีผลิตผลที่ดีที่สุดในโลก แม้มีภูมิหลังที่รุ่งเรือง กระนั้น ตลอดหลายทศวรรษหลัง…

2 months ago

๑๐๑ สานพลังผู้คนเพื่อกำหนดทิศทางเมือง

สนทนากับ ผศ.ดร.ชัญญรินทร์ สมพรหัวหน้าโครงการวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด ‘ร้อยเอ็ด’, สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด “พื้นที่นี้จะเป็นเหมือนตัวกลางในการสร้างความพร้อมให้คนร้อยเอ็ดสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต” ผศ. ดร.ชัญญรินทร์ สมพร รองผู้อํานวยการสํานักส่งเสริมวิชาการและจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิต มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด และหัวหน้าโครงการวิจัย "โครงการเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ร้อยเอ็ดคนดี เชื่อมโยงโครงข่ายเศรษฐกิจ ด้วยการเดินบนความปลอดภัยและทันสมัย…

2 months ago

THE MAYOR : บรรจง โฆษิตจิรนันท์ : นายเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด และนายกสมาคมเทศบาลนครและเมือง

"เราให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงเศรษฐกิจให้ร้อยเอ็ดเป็นทางเลือกใหม่ของตลาด MICE ที่ราคาย่อมเยา เดินทางสะดวก และมีอัตลักษณ์" เริ่มจากความคับข้องใจที่เห็นบ้านเกิดของตัวเอง (ร้อยเอ็ด) เป็นเมืองผ่านที่มักถูกมองข้าม เมื่อ บรรจง โฆษิตจิรนันท์ เข้ารับตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด เมื่อปี 2538 เขาจึงเริ่มโครงการพัฒนาเมือง ไปพร้อมกับการดึงเสน่ห์จากศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ดึงดูดให้ผู้คนมาเที่ยว…

2 months ago