“ความที่ชุมชนตลาดใต้อยู่ติดกับแม่น้ำน่านซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมหลักเมื่อครั้งอดีต ตลาดแห่งนี้จึงมีประวัติศาสตร์ที่ย้อนไปไกลถึงรัชกาลที่ 3 หรือกว่าสองร้อยปีมาแล้ว”

“เวลาพูดถึงเรื่องประวัติศาสตร์เมืองพิษณุโลก หลายคนจะคิดถึงสมเด็จพระนเรศวร พระพุทธชินราช หรือประวัติศาสตร์ที่เชื่อมโยงกับรัฐชาติ ที่มักปรากฏในแบบเรียน หรือถ้าลงลึกไปอีกด้วยการไปถามคนเฒ่าคนแก่ ส่วนใหญ่พวกเขาจะนึกถึงอยู่เหตุการณ์เดียว คือเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2500 เพราะนี่เป็นเหตุการณ์ที่อยู่ในความทรงจำผู้คนจำนวนมาก เวลาไปร้านอาหารดังๆ ร้านไหนในเมือง ก็จะเห็นรูปเหตุการณ์แขวนประดับไว้เป็นที่ระลึก  


อย่างไรก็ตาม พิษณุโลกไม่ได้มีแค่สิ่งเหล่านี้เท่านั้น เพราะอย่าลืมว่าพัฒนาการของเมืองตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมาเกิดขึ้นจากผู้คน โครงการวิจัยเรื่องเมืองแห่งการเรียนรู้พิษณุโลกที่เราทำในพื้นที่ตลาดใต้ จึงเป็นเหมือนความพยายามถ่ายทอดความเป็นมาและเป็นไปของย่านย่านนี้ เชื่อมร้อยไปกับภาพรวมของเมือง โดยมีศูนย์กลางคือผู้คน 

อาจารย์รับผิดชอบในด้านการค้นคว้าและเรียบเรียงข้อมูลทางประวัติศาสตร์ในย่านตลาดใต้ โดยเริ่มเข้ามาทำโครงการนี้ตั้งแต่ปี 2563 ภายใต้กรอบของโครงการย่านสร้างสรรค์ ก่อนจะต่อยอดมาเป็นโครงการเมืองแห่งการเรียนรู้ในปี 2564-2565 ซึ่งอย่างที่บอก ที่ผ่านมาเราแทบหาบันทึกประวัติศาสตร์ในระดับชุมชนหรือระดับย่านที่เป็นเอกสารไม่ได้เลย จึงต้องสัมภาษณ์ผู้คนในย่านให้เขาเล่าถึงพัฒนาการหรือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และนำมาเทียบเคียงกับเอกสารทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่นี้เท่าที่จะหาได้

ทั้งนี้ ความที่ชุมชนตลาดใต้อยู่ติดกับแม่น้ำน่านซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมหลักในอดีต รวมถึงมีท่าเรือสำคัญๆ เราจึงพบข้อมูลว่าตลาดใต้มีประวัติศาสตร์ที่ย้อนไปไกลถึงรัชกาลที่ 3 หรือกว่าสองร้อยปีมาแล้ว จากสถานะของชุมชนการค้าทางเรือในบริเวณลุ่มน้ำน่าน มีชาวจีนอพยพเข้ามาทำมาค้าขายในพื้นที่เป็นจำนวนมาก ขณะที่ตามลำน้ำก็เต็มไปด้วยเรือนแพที่เป็นทั้งร้านค้าและที่พักอาศัย ก่อนที่จะมีการขยับขึ้นฝั่งมาสร้างบ้านเรือนบริเวณตลาดใต้เช่นปัจจุบัน

และแม้จะไม่มีรูปถ่ายหลงเหลืออยู่แล้ว แต่อาจารย์ก็ได้สัมภาษณ์คนเฒ่าคนแก่ที่ทันเห็นบ้านเมืองก่อนเกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ บ้านเรือนสมัยนั้นเป็นเรือนไม้ มีภูมิทัศน์คล้ายๆ ตลาดสามชุกที่จังหวัดสุพรรณบุรี ทั้งนี้ยังมีเรือนไม้หลายหลังที่มีระเบียงยื่นออกไปทางฝั่งแม่น้ำซึ่งน่าจะเกิดขึ้นในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 กระทั่งเกิดไฟไหม้ บ้านเรือนเหล่านี้จึงไม่เหลือ มีเพียงเรือนแพที่ยังปรากฏให้เห็น พอมาราวปี 2530 ที่ทางเทศบาลมีนโยบายยกเรือนแพขึ้น เพื่อสุขลักษณะและภูมิทัศน์ของเมือง จนไม่เหลือเรือนแพที่เป็นที่พักอาศัยอยู่เลย ความคึกคักของตลาดใต้ก็ลดลงไป ซึ่งก็สอดพ้องกับที่เมืองมีการขยายตัว และมีย่านการค้าใหม่ๆ เกิดขึ้นโดยรอบ

อาจารย์ยังได้ร่วมกับคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ในการศึกษารูปแบบของอาคารสมัยใหม่ที่สร้างหลังยุค 2500 ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ที่ยังคงถูกใช้มาจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ เราไม่ได้ทำแค่การสกัดองค์ความรู้ แต่ยังทำในเชิงถ่ายทอด ด้วยการชวนเด็กนักเรียนในสถาบันการศึกษาละแวกนั้นมาร่วมกันค้นคว้าประวัติศาสตร์และพัฒนาการของย่าน ชวนคนเฒ่าคนแก่มาเล่าเรื่องราวให้เด็กๆ ฟัง รวมถึงชวนนักศึกษาสาขาพัฒนาสังคมที่คณะสังคมศาสตร์มาลงพื้นที่เรียนรู้ย่านนี้ไปด้วย

ที่สำคัญ ทางอาจารย์อรวรรณ (ดร.อรวรรณ ศิริสวัสดิ์) ยังได้ทำการสัมภาษณ์ผู้คนในย่านตลาดใต้เกี่ยวกับความทรงจำของพวกเขาต่อพื้นที่ บันทึกและเผยแพร่ผ่านเพจเฟซบุ๊คและวิดีโอในยูทูปไปสู่วงกว้างควบคู่ไปกับข้อมูลที่เป็นเอกสารงานวิจัยที่อาจารย์ทำ เกิดเป็นบันทึกประวัติศาสตร์ท้องถิ่นในยุคใกล้ที่ทำให้คนทั่วไปได้เห็นความเป็นมาและเป็นไปของย่านย่านนี้ไปพร้อมกัน

 
ซึ่งหลังจากได้องค์ความรู้และกระบวนการถ่ายทอดแล้ว เราก็จัดกิจกรรม ‘จิบชาชวนคุย’ ชวนชาวชุมชน ภาคประชาสังคมต่างๆ และหน่วยงานส่วนท้องถิ่นมาระดมความคิดกันว่าเราจะพัฒนาย่านแห่งนี้ไปยังทิศทางไหน ก่อนจะเกิดเป็นนิทรรศการที่บอกเล่าเรื่องราวของตลาดใต้และแผนที่มรดกทางศิลปวัฒนธรรมจัดแสดงอยู่ภายในโรงงิ้วตรงข้ามศาลเจ้าพ่อเสือ เปิดให้ผู้ที่สนใจมาเยี่ยมชม

ยังไม่หมด ทางอาจารย์ธนวัฒน์ (ธนวัฒน์ ขวัญบุญ) หัวหน้าโครงการ เขายังได้ทำเส้นทางการท่องเที่ยวตลาด แนะนำร้านอาหารอร่อยๆ รวมถึงข้อมูลด้านสถาปัตยกรรมผ่านอาคารเก่าแก่ในย่าน เป็นสื่อที่ทำให้คนนอกเข้าใจว่าตลาดใต้คืออะไร และเราจะมาเที่ยวชมตลาดแห่งนี้ให้สนุกได้อย่างไร


และนั่นทำให้การเดินตลาดเช้าแห่งนี้ เป็นมากกว่าการจับจ่ายซื้อสินค้า แต่เป็นการสัมผัสวิถีชีวิตในตลาดเก่าควบคู่ไปกับการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของย่าน ที่เชื่อมร้อยเข้ากับประวัติศาสตร์ของเมือง  

ในภาพใหญ่ อาจารย์คิดว่าโครงการเมืองแห่งการเรียนรู้ตลาดใต้ เป็นเหมือนโมเดลที่ทำให้เราได้เห็นว่าประวัติศาสตร์ของย่าน คือต้นทุนที่ดีเยี่ยมสำหรับกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับเมือง ทั้งการสะท้อนศักยภาพของการฟื้นฟูย่าน ไปจนถึงการท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม ถ้าโมเดลนี้มันไปเกิดขึ้นในย่านอื่นๆ ของเมืองเนี่ย มันก็จะช่วยธุรกิจท่องเที่ยวได้เยอะ กลายเป็นว่าจากแต่ก่อนคนมาเที่ยวพิษณุโลก จะคิดถึงแค่การไหว้พระพุทธชินราชที่วัดใหญ่ หรือสมเด็จพระนเรศวรที่พระราชวังจันทน์ เขายังมีสถานที่ที่ต้องแวะไปชม หรือไปหาของอร่อยๆ กิน และสิ่งนี้จะช่วยเปลี่ยนให้เมืองของเราจากการเป็นแค่เมืองผ่าน กลายเป็นเมืองที่ทุกคนต้องแวะพัก”     


ผศ.ดร.อุดมพร ธีระวิริยะกุล
รองคณบดีฝ่ายพัฒนาคุณภาพการศึกษา
และอาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

[THE RESEARCHER]<br />ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์<br />หัวหน้าโครงการวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด เทศบาลเมืองลำพูน<br />นักวิจัยจากสถาบันวิจัยพหุศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

พลังคน พลังโคมลำพูน: เมืองเล็ก ๆ ที่เปี่ยมไปด้วยพลังสร้างสรรค์ แม้ ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์ เป็นคนเชียงใหม่ เธอก็หาใช่เป็นคนอื่นคนไกลสำหรับชาวลำพูนเพราะก่อนจะเข้ามาขับเคลื่อนงานวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดกับเทศบาลเมืองลำพูน เธอได้ทำวิจัยเกี่ยวกับเมืองแห่งนี้มาหลายครั้ง โดยเฉพาะโครงการขับเคลื่อนเยาวชนเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเป็นพลเมืองของเมืองแห่งการเรียนรู้ของ UNESCO ในปี 2566-2567 - นั่นล่ะ…

3 days ago

[THE CITIZENS]<br />ปริยาพร วีระศิริ<br />เจ้าของแบรนด์ผ้าไหม “อภิรมย์ลำพูน”

“เป็นสิ่งวิเศษที่สุด ที่ผ้าไหมของจังหวัดลำพูนได้ปรากฏต่อสายตาผู้คนทั้งในและต่างประเทศ ทั้งเมื่อครั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงให้การส่งเสริม และทรงฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ และกระทั่งในปัจจุบัน สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 10 ก็ทรงส่งเสริมผ้าไหมไทย และฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญเช่นกัน ดิฉันเป็นคนลำพูน มีความภูมิใจในงานหัตถศิลป์การทอผ้าไหมยกดอกนี้มาก ๆ   และตั้งใจจะรักษามรดกทางวัฒนธรรม   ทำหน้าที่ส่งต่อถึงคนรุ่นต่อไป…

1 week ago

[THE CITIZENS]<br />ไชยยง รัตนอังกูร<br />ผู้ก่อตั้ง ลำพูน ซิตี้ แลป

“ความที่โตมาในลำพูน เราตระหนักดีว่าเมืองเรามีต้นทุนทางวัฒนธรรมที่สูงมาก ทั้งยังมีบรรยากาศที่น่าอยู่ อย่างไรก็ดี อาจเพราะเป็นเมืองขนาดเล็ก ลำพูนมักถูกมองข้ามจากแผนการพัฒนาของประเทศ เป็นเหมือนเมืองที่มีศักยภาพ แต่ยังไม่ถูกปลุกให้ตื่นความที่เราเคยทำงานที่ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (ปัจจุบันคือสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA - ผู้เรียบเรียง) ได้เห็นตัวอย่างความสำเร็จของกระบวนการพัฒนาย่านด้วยกรอบพื้นที่สร้างสรรค์ในหลายพื้นที่…

1 week ago

[THE CITIZENS]<br />ธีรธรรม เตชฤทธ์<br />ประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดลำพูน

“ผมเป็นคนลำพูน และชอบทำกิจกรรมนอกห้องเรียนมาตั้งแต่เด็ก ปัจจุบันเป็นประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดลำพูน ควบคู่ไปกับกำลังศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จากประสบการณ์การทำงานในสภาฯ ทำให้ผมเห็นว่า เยาวชนลำพูนมีศักยภาพที่หลากหลาย แต่สิ่งที่ขาดไปคือเวทีที่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงความสามารถและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากการสนับสนุนจากโรงเรียนหรือโครงการของภาคเอกชน ปี 2567 พี่อร (ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์…

1 week ago

[THE CITIZENS]<br />ชนัญชิดา บุณฑริกบุตร<br />ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองลำพูน

“อาคารหลังนี้แต่ก่อนเป็นที่ประทับของเจ้าราชสัมพันธวงษ์ลำพูน (พุทธวงษ์ ณ เชียงใหม่) น้องเขยของเจ้าจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าหลวงองค์สุดท้ายของลำพูน อาคารถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2455 หลังจากนั้นก็ถูกขายให้พ่อค้าชาวจีนไปทำเป็นโรงเรียนหวุ่นเจิ้ง สอนภาษาจีนและคณิตศาสตร์ โรงเรียนนี้เปิดได้ไม่นานก็ต้องปิด เพราะสมัยนั้นรัฐบาลเพ่งเล็งว่าอะไรที่เป็นของจีนจะเกี่ยวข้องกับลัทธิคอมมิวนิสต์ แต่หนูก็ไม่รู้หรอกว่าโรงเรียนนี้เกี่ยวข้องหรือเปล่า (ยิ้ม)  จากนั้นอาคารก็ถูกเปลี่ยนมาเป็นโรงเรียนมงคลวิทยาในปี…

2 weeks ago

[THE CITIZENS]<br />นงเยาว์ ชัยพรหม<br />คนทำโคมจากชุมชนชัยมงคล

“เราโตมากับวัฒนธรรมของคนลำพูน ชอบไปเดินงานปอย ร่วมงานบุญ ก่อนหน้านี้ก็เคยทำงานรับจ้างทั่วไป จนเทศบาลฯ มาส่งเสริมเรื่องการทำโคม โดยมีสล่าจากชุมชนศรีบุญเรืองมาสอน เราก็ไปเรียนกับเขา ตอนนี้อาชีพหลักคือการทำโคม ทำมาได้ 2 ปีแล้ว  สำหรับเรา โคมคืองานศิลปะ เป็นสัญลักษณ์และมรดกที่ยึดโยงกับวัฒนธรรมของคนบ้านเรา ตอนแรกเราไม่มีความคิดเลยว่ามันจะกลายมาเป็นอาชีพได้…

2 weeks ago