ชักเย่อเกวียนพระบาทก็ได้ขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติประจำปีพุทธศักราช 2558 สาขากีฬาภูมิปัญญาไทย

“ผมเป็นคนบ้าวัฒนธรรม งานวัฒนธรรมไม่ใช่งานสวยงาม ไม่ได้ตังค์ ใช้ใจอย่างเดียว วัฒนธรรมยั่งยืนพวกเราต้องช่วยกันทำ ผมเป็นรองประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดจันทบุรีตั้งแต่ปี 2538 จนปีนี้ ทำโครงการอาหาร ภูมิปัญญาชาวบ้าน ผมเป็นประธานสร้างตลาด 270 ปีวัดตะปอนใหญ่ ทำเฉพาะวันเสาร์ครึ่งวัน ทำมา 5 ปี ตอนนี้ตลาดเหงาละ พอดีผมไปรับทำแสงสีเสียงที่ระยอง ที่จันท์ด้วยเลยไม่มีเวลาไปบริหาร ตอนที่ผมทำ หนึ่ง. ต้องใส่ชุดพื้นบ้าน ผู้ชายอย่างน้อยก็กางเกงขาก๊วยเสื้อม่อฮ่อม ผู้หญิงก็ผ้าถุงเสื้อคอกระเช้า โค้กเป๊ปซี่ห้ามขาย ต้องเป็นน้ำผลไม้ น้ำมะตูม คือเราต้องบังคับ มีกฎ คือคุณจะไปตลาดนัดทั่วไปมันมีทุกอย่าง แต่ถ้าวันเสาร์คุณอยากจะกินผักพื้นบ้าน ผักปลอดสารพิษ อาหารท้องถิ่น ของพื้นบ้าน ได้เห็นของที่ไม่มีที่อื่น ต้องมาที่นี่

วัดตะปอนใหญ่ประกาศฝังลูกนิมิต 270 ปี (พ.ศ. 2290) ก่อนพระเจ้าตากสินมาจันทบุรี 20 ปี เราตั้งชื่อตลาดอย่างนี้จะได้บรรยายประวัติศาสตร์ท้องถิ่นว่า วัดเราผูกพัทธสีมามา 270 ปี ปีนี้ 275 ปีแล้ว ได้เห็นความเก่าแก่สมัยอยุธยาตอนปลาย เวลาเปิดตลาด ผมก็เชิญผู้สื่อข่าวมาทำข่าว คนก็มา ขายผักพื้นบ้าน ผักแว่น ขนมพื้นบ้าน ขนมควยลิง(ชื่อขนมท้องถิ่นชนิดหนึ่งของชุมชนหนองบัว) ใช้แป้งปั้นๆ เอามาคลุกมะพร้าว เขายังทำขายอยู่ที่ตลาดของแปลกชุมชนหนองบัว ขนมโรจี๋ ปั้นแป้งเคี่ยวน้ำอ้อย ถั่วตำแหลกๆ จุ่มแล้วหวานๆ มันๆ เดี๋ยวนี้คนรุ่นใหม่เรียก ขนมติดคอ จากตลาดมีร้านค้า 20 ร้านเพิ่มเป็นร้อยกว่าร้านภายใน 3-4 อาทิตย์ แม่ค้ามีรายได้ดี แต่ตลาดเดี๋ยวนี้ คือไม่คิดต่าง ไม่สร้างอัตลักษณ์ของตัวเอง มันต้องใช้ของที่คนอื่นไม่มีก็จะสร้างจุดสนใจ

ผมเป็นคนตะปอน แต่อยู่ตำบลเกวียนหัก คนจันท์ คนขลุง ร้อยละ 80 เป็นลูกหลานคนชอง (นักมานุษยวิทยาจัดชนกลุ่มชองอยู่ในกลุ่มมอญ-เขมร) ผมก็คนชอง ไหว้ผีชองอยู่ คนชองก็เก่งเรื่องของป่า นับถือผีบ้านผีเรือน นิสัยก็คนไทยนี่แหละ ไม่ชอบจำเจ ทำไร่เลื่อนลอย ความเจริญมาก็ขาย ไปถางป่าที่ใหม่ เดี๋ยวนี้พวกนี้ศิวิไลซ์เป็นคนเมืองแล้ว แต่ก็มีคนจีนอพยพมาด้วย มีกลุ่มญวน 3 กลุ่มอพยพมาจากเวียดนามมาอยู่ที่ขลุง เรียก บ้านญวน

ชาวบ้านไปคุยกับเขา เขาไม่รู้จักคำว่าวัฒนธรรมหรอก เขารู้จักแค่ว่าเขามีข้าวกินป่าว ถ้าไม่ตรงประเด็นเขา เขาทำแป๊บเดียว เขาก็ไม่ทำ ผมเสนอนักวิจัยที่เข้ามาทำพื้นที่เรียนรู้ไปว่า ชาวบ้านก็คือชาวบ้าน เอาอัตลักษณ์ของตัวเองมาขาย พร้อมที่จะเป็นแหล่งเรียนรู้ แต่คุณต้องมาเป็นพี่เลี้ยง เพราะมันเป็นแหล่งเรียนรู้โดยธรรมชาติอยู่แล้ว ไม่ต้องทำก็มาเรียนรู้ได้ แหล่งเรียนรู้ในย่านตะปอน ผมก็เสนอวัดตะปอนใหญ่ เป็นศูนย์กลางอยู่แล้ว พร้อมให้ความสนับสนุน ยินดีให้พื้นที่ ตะปอนมีทั้งอาชีพเกษตร ประมง อาหารพื้นบ้าน ตรงจุดนี้ ผมว่าดีสุด เพราะเป็นชุมชนเก่าสุดของอำเภอขลุง มีศิลาจารึกอยู่ที่พิพิธภัณฑ์พระนคร เมืองขลุงบุรี ถ้านับวันนี้ก็ 1,400 ปี นี่ผมคุยกับผอ.สำนักนาฏศิลป์, สภาจังหวัด อบจ. ทำโครงการ หนึ่ง. ประกวดภาพเก่าเล่าเรื่อง ใครมีภาพเก่าเอามา เราจะได้เก็บข้อมูล เราขอเป็นลิขสิทธิ์ถ่ายเป็นก๊อปปี้ไว้ สอง. เขียน ร้อยเรื่องเมืองขลุง คุณจะเขียนเรื่องอะไรก็ได้ของเมืองขลุง พระที่ดัง โบราณที่ดัง สถานที่ที่เก่าแก่ เราได้เรื่องเก่าๆ อย่างนี้ก็ไม่ต้องตามไปวิจัยไง ลงทุนสองสามแสนได้ทุกเรื่อง แล้วก็บอกเพื่อนนักโบราณคดี ให้ส่วนกลางมาเป็นวิทยากรท้องถิ่น ตั้งวงเสวนา ให้เขาย้อนภาพอดีต ว่าเมืองขลุงเป็นยังไง เมื่อก่อนเรือกลไฟเข้ามาถึงตรงนี้ ตอนนี้เป็นถนนเพราะอะไร ญวนอพยพมายังไง ให้เด็กนักเรียนที่โตหน่อยเข้ามาฟัง ขยายโอกาสให้ชาวบ้านทั่วไปสนใจฟัง เราก็อาจจะได้เด็กที่สนใจมาเล่าเรื่องต่อได้ ร้อยคนได้คนเดียวก็กำไรแล้ว

ทุกวันนี้ ผมก็ตกปลา ช้อนปู อำเภอเขาสั่งให้ผมเป็นปราชญ์ท้องถิ่น เปิดเรียนก็มีเด็กจากรำไพฯ (มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี) นาฏศิลป์ฯ (วิทยาลัยนาฏศิลปจันทบุรี) มาให้ร้องเพลงพื้นบ้านมั่ง เล่าประวัติศาสตร์ท้องถิ่นมั่ง ผมบวชมาห้าพรรษา จบนักธรรมเอก เป็นเด็กหุงข้าว เป็นลูกชาวนา เราทำดี เจ้าอาวาสก็ใช้ คนแก่ๆ มาที่วัด จุดไต้ จุดเทียนมานั่งคุยกัน ผมมีหน้าที่สูบตะเกียงเจ้าพายุ พอน้ำชาหมดก็ไปก่อไฟตั้งน้ำต้ม เพราะเณรรูปอื่นต้มไม่ได้ ทำไมผมเก็บเรื่องมาเล่าได้ เพราะคนที่มากินน้ำชา คนนั้น คนนี้ เล่า เหมือนตำราเลยนะ ถ้าเล่าเรื่องเดียวกัน ตรงกัน แสดงว่าเล่ากันต่อๆ มา ฉะนั้นไม่มีใครรู้จักชักเย่อเกวียนพระบาทดีเท่าผม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดประชุมเรื่องขึ้นทะเบียนชักเย่อเกวียนพระบาท กรมส่งเสริมวัฒนธรรมให้ผมไปนำเสนอที่กรุงเทพฯ เขานึกภาพว่าคนเป็นร้อยคนชักเย่อแล้วเกวียนไม่พังเหรอ ผมเข้าห้องประชุม ก็เลยเอาสายไมค์ดึงเป็นสายชักเย่อ แล้วลอดใส่ท้องเกวียน มัดติดอยู่ เกวียนก็มัดติดเชือกไป มันดึงแต่เชือก เขาก็เห็นภาพ แล้วชักเย่อเกวียนพระบาทก็ได้ขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติประจำปีพุทธศักราช 2558 สาขากีฬาภูมิปัญญาไทย”

กาญจน์ กรณีย์

ประธานสภาวัฒนธรรม อำเภอขลุง รองประธานสภาวัฒนธรรม จังหวัดจันทบุรี

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

THE INSIDER : ณัฐธิยาภรณ์ อ้วนวงศ์ นักวิจัยโครงการเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด ร้อยเอ็ด และนักวิเคราะห์นโยบายและแผน กองยุทธศาสตร์และงบประมาณ เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด

“หอโหวดเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่หลังจากนี้คือกลไกที่เทศบาลต้องทำงานร่วมกับภาคประชาชนและนักวิชาการ ในการกำหนดทิศทางเมืองให้ร้อยเอ็ดพร้อมรับการท่องเที่ยว และทำให้เมืองมีความน่าอยู่ สำหรับผู้คนในเมืองพร้อมกันไปด้วย” “เราเกิดที่ร้อยเอ็ด เรียนมัธยมที่นี่ ก่อนไปเรียนระดับมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ ก่อนหน้านี้ สักเกือบ 10 ปีที่แล้ว เราไม่เคยมีความคิดจะกลับมาทำงานที่บ้านเกิดเลยนะ เพราะไม่เห็นโอกาสอะไรในชีวิตในภาพจำเดิมของเรา ร้อยเอ็ดเป็นเมืองผ่าน ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อ ไม่มีแหล่งธรรมชาติสวยๆ…

5 days ago

WeCitizens : The Concept

ชวนอ่าน เบื้องหลังแนวคิดการขับเคลื่อนงานพัฒนาเมืองด้วยงานวิจัย องค์ความรู้ และนวัตกรรม ความร่วมมือ และบูรณการระหว่าง บพท. และสมาคมเทศบาลนครและเมือง ก่อเกิดโครงการ "โปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (CIAP) ดำเนินการระหว่างปีพ.ศ. 2567-2568 กับผู้นำเมือง และเทศบาล…

7 days ago

WeCitizens เมืองร้อยเอ็ด : ก้าวสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด

WeCitizens : ร้อยเอ็ดเมืองน่าอยู่อย่างชาญฉลาด (ฉบับที่ 1) เปิดความคิด ความหวัง และโอกาสของการพัฒนาเมืองร้อยเอ็ดที่รัก นำโดยนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด คุณบรรจง โฆษิตจิรนันท์ คณะทำงานเจ้าหน้าที่เทศบาล และหัวหน้าโครงการวิจัยร้อยเอ็ดเมืองน่าอยู่อย่างชาญฉลาด ผศ. ดร.ชัญญรินทร์…

1 month ago

City View : ๑๐๑ เมืองรองที่ไม่เป็นรองใคร

ร้อยเอ็ดอยู่ห่างจาก ‘สะดืออีสาน’ พื้นที่ที่ถูกปักหมุดให้เป็นจุดศูนย์กลางของภาคอีสานในอำเภอโกสุมพิสัย มหาสารคาม เพียง 60 กิโลเมตร ในตำนานอุรังคธาตุ (ตำนานพระธาตุพนม) กล่าวว่า ‘สาเกตนครร้อยเอ็ดประตู’ (ชื่อเดิม) เมืองนี้ มีประตูเท่าจำนวนเมืองขึ้น ‘ร้อยเอ็ดเมือง’ สะท้อนให้เห็นความรุ่งเรืองจากการเป็นศูนย์กลางอำนาจและการคมนาคมของภูมิภาคมาตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 21อีกทั้ง ส่วนหนึ่งของพื้นที่ยังเป็นที่ตั้งของทุ่งกุลาร้องไห้ ที่ราบขนาดใหญ่กว่า 2 ล้านไร่ ทำให้ในเวลาต่อมา ร้อยเอ็ดจึงเป็นอู่ข้าวที่ผลิตข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาที่ใหญ่ และมีผลิตผลที่ดีที่สุดในโลก แม้มีภูมิหลังที่รุ่งเรือง กระนั้น ตลอดหลายทศวรรษหลัง…

2 months ago

๑๐๑ สานพลังผู้คนเพื่อกำหนดทิศทางเมือง

สนทนากับ ผศ.ดร.ชัญญรินทร์ สมพรหัวหน้าโครงการวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด ‘ร้อยเอ็ด’, สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด “พื้นที่นี้จะเป็นเหมือนตัวกลางในการสร้างความพร้อมให้คนร้อยเอ็ดสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต” ผศ. ดร.ชัญญรินทร์ สมพร รองผู้อํานวยการสํานักส่งเสริมวิชาการและจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิต มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด และหัวหน้าโครงการวิจัย "โครงการเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ร้อยเอ็ดคนดี เชื่อมโยงโครงข่ายเศรษฐกิจ ด้วยการเดินบนความปลอดภัยและทันสมัย…

2 months ago

THE MAYOR : บรรจง โฆษิตจิรนันท์ : นายเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด และนายกสมาคมเทศบาลนครและเมือง

"เราให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงเศรษฐกิจให้ร้อยเอ็ดเป็นทางเลือกใหม่ของตลาด MICE ที่ราคาย่อมเยา เดินทางสะดวก และมีอัตลักษณ์" เริ่มจากความคับข้องใจที่เห็นบ้านเกิดของตัวเอง (ร้อยเอ็ด) เป็นเมืองผ่านที่มักถูกมองข้าม เมื่อ บรรจง โฆษิตจิรนันท์ เข้ารับตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด เมื่อปี 2538 เขาจึงเริ่มโครงการพัฒนาเมือง ไปพร้อมกับการดึงเสน่ห์จากศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ดึงดูดให้ผู้คนมาเที่ยว…

2 months ago