Categories: Citizenยะลา

ผมเหมือนคนที่ตกค้างอยู่ในกระแสของกาลเวลานะ อาชีพที่ดูเหมือนจะสูญหายไปจากสังคมแล้ว แต่ก็ยังมีผมที่หลงเหลืออยู่

“เริ่มจากอาของผมที่เป็นนายช่างเขียนคัทเอาท์ที่โรงภาพยนตร์เฉลิมเขตในอำเภอสุไหงโกลก ตอนนั้นผมเรียน ม.1 เรียนได้ครึ่งเทอม เห็นว่าที่บ้านไม่ค่อยมีเงินส่งผมเรียนแล้ว จึงลาออก และขอตามไปอยู่กับอา ไปให้อาฝึกเขียนรูปให้ หวังทำเป็นอาชีพ

ผมไม่มีทักษะทางศิลปะเลย ก็เริ่มจากไปช่วยอาเตรียมเฟรมวาดรูป กวนสี และล้างพู่กันให้ ระหว่างที่อาเขียนรูป ผมก็ดูวิธีการทำงานของเขาแทบไม่กะพริบตา ทำแบบนี้อยู่สองปี จนรู้แล้วว่าจะวาดเส้น ลงสี หรือลงน้ำหนักพู่กันอย่างไร อาก็ให้ผมลองลงมือเขียน

ที่โรงหนังเฉลิมเขตจะมีช่างใหญ่ซึ่งก็คืออาผมหนึ่งคน คอยเขียนรูปเหมือนจากใบปิดภาพยนตร์ลงป้ายขนาดใหญ่และขนาดเล็ก และก็มีช่างที่คอยเขียนตัวอักษรอีกหนึ่งคน และก็มีผมที่เป็นเด็กฝึกงานซึ่งมีโอกาสหัดเขียนทั้งรูปและแบบตัวอักษร ทำๆ ไปจนเจ้าของโรงหนังเขาว่าจ้างและมีเงินเดือน อาผมก็ย้ายไปอยู่กรุงเทพฯ ผมก็รู้สึกอิ่มตัว เลยกลับไปอยู่บ้านที่สงขลาอยู่ราวหนึ่งปี จากนั้นก็มีคนจากโรงภาพยนตร์อีกแห่งในสุไหงโกลกมาชวน ผมก็กลับไปเขียนป้ายอีก

เขียนอยู่ที่นั่นอีกพักใหญ่ ก็มีผู้จัดการโรงหนังปัตตานีพาราไดซ์มาชวนไปทำพาร์ทไทม์ ก็เลยต้องทำงานสองที่ คือในหนึ่งสัปดาห์ ผมจะประจำอยู่โรงหนังที่ปัตตานี 5 วัน และอยู่ที่สุไหงโกลกอีก 2 วัน สมัยก่อนหนังเข้าเรื่องหนึ่งจะอยู่ยาวเป็นครึ่งเดือน และโรงหนังก็เป็นแบบสแตนด์อะโลนที่ฉายหนังควบ ต่อช่วงเวลาครึ่งเดือน ผมเลยจะเขียนคัทเอาท์ให้หนังสองเรื่อง


ทำได้สักพักโรงหนังที่สุไหงโกลกปิดตัว งานผมจึงเหลือแค่ปัตตานีที่เดียว พอดีกับที่แฟนผมท้อง ผมเลยเปิดร้านรับเขียนป้ายที่ปัตตานี และส่งลูกเรียนหนังสือที่นั่น ทำร้านอยู่พักใหญ่ โรงหนังที่ปัตตานีก็ปิดตัวตามไปอีก แต่ก็พอดีกับที่เจ้าของห้างโคลีเซียมยะลาติดต่อมาให้ไปเป็นนายช่างใหญ่ที่นั่น ก็ลังเลอยู่พักหนึ่งเพราะเรามีร้านที่ปัตตานีแล้ว แต่ก็มาคิดดูว่าถ้าทำที่ยะลาเราก็มีเงินเดือนประจำที่แน่นอน ช่วงแรกๆ เลยตัดสินใจไปๆ กลับๆ ยะลา-ปัตตานี แต่ทำไปได้สักพักก็รู้สึกเหนื่อย เลยตัดสินใจย้ายครอบครัวและย้ายร้านมาเปิดที่ยะลาที่เดียวเลย ผมเริ่มงานที่โคลีเซียมยะลาปี 2550 ตอนนี้ก็อยู่มา 15 ปีแล้ว

ผมน่าจะเป็นช่างเขียนคัทเอาท์หนังรุ่นสุดท้ายแล้ว ผมเติบโตมาในช่วงที่โรงหนังที่ใช้ช่างเขียนป้ายพากันปิดตัวลง และถูกแทนที่ด้วยโรงหนังที่เป็นสาขา ซึ่งมีการปริ้นท์ไวนิลประชาสัมพันธ์หนัง ช่างเขียนมือจึงค่อยๆ ตกงานกันไปทีละราย ทุกวันนี้ในภาคใต้ จะมีโรงหนังที่พัทลุงและภูเก็ตที่ยังใช้ช่างเขียนตัวอักษร แต่ถ้าเป็นเขียนรูปเหมือน ก็มีแค่โรงหนังโคลีเซียมยะลาที่ผมทำอยู่ที่เดียวที่ยังหลงเหลืออยู่

ช่างส่วนใหญ่ที่ผมรู้จักนี่จะอายุราว 60-70 ปีหมด บางคนผันตัวไปเปิดร้านเขียนป้าย หรือไปเขียนรูปเหมือน ส่วนคนรุ่นหลังผมนี่ไม่มีใครทำงานนี้แล้ว เพราะไม่มีโรงหนังไหนจ้างอีก จะว่าไปผมก็เหมือนคนที่ตกค้างอยู่ในกระแสของกาลเวลานะ อาชีพที่ดูเหมือนจะสูญหายไปจากสังคมแล้ว แต่ก็ยังมีผมที่หลงเหลืออยู่ และตระหนักอยู่เสมอว่าเราพร้อมจะถูกเลิกจ้างได้ทุกเมื่อ

แต่นั่นล่ะ ผมไม่ได้ฟูมฟายหรือนึกใจหายอะไร เข้าใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างย่อมต้องเปลี่ยนแปลง คือไม่ใช่แค่อาชีพของผมเท่านั้นหรอกนะ แต่กับธุรกิจโรงหนังเองก็เริ่มลำบาก เพราะสมัยนี้เทคโนโลยีมันเร็ว คนดูหนังอยู่บ้านหมด ผมก็จะทำงานนี้จนกว่าเขาจะเลิกจ้าง เพราะถึงยังไงนี่ก็เป็นงานที่ผมทำมาทั้งชีวิต และยังสนุกกับมันอยู่

ทุกวันนี้ผมจะเขียนป้ายสัปดาห์ละ 1-2 เรื่อง จะมีเขียนลงคัทเอาท์หน้าโรงหนัง และคัทเอาท์ที่เอาไปติดบนรถแห่รอบเมืองยะลา โดยมีนายช่างอีกคนสลับกันเขียนและเขียนตัวอักษร ถ้าหนังเรื่องไหนดังๆ บางครั้งจะมีคนมาขอซื้อคัทเอาท์เรื่องนั้นไปเก็บสะสม ผมก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่คุณต้องหาคัทเอาท์อันใหม่มาแทนด้วย เพราะปกติ เวลาเขียนหนังหนึ่งเรื่อง เมื่อหนังจบ ผมก็จะทาสีขาวทับเพื่อวาดหนังเรื่องใหม่

ถ้าขยันๆ หน่อยผมจะใช้เวลาประมาณ 2 วันในการทำคัทเอาท์ใหญ่หนึ่งป้าย แต่ส่วนใหญ่ก็จะเอ้อระเหย เป็น 3-4 วัน แต่ก็ทันกำหนดการอยู่ดี ที่วาดยากหน่อยคือหนังไทย เพราะคนดูรู้จักดารา ถ้าวาดไม่เหมือนดาราคนนั้นนิดหน่อยเขาก็จับได้แล้ว ส่วนหนังฝรั่งจะไม่ซีเรียสเท่า”

เจียร เสียงแจ้ว

นายช่างเขียนคัทเอาท์โรงภาพยนตร์โคลีเซียม ยะลา
นายช่างคนสุดท้ายของภาคใต้
 

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

[The Insider]<br />พัชรี แซมสนธ์

“เมืองอาหารปลอดภัยไม่ได้ให้ประโยชน์แค่เฉพาะผู้คนในเขตเทศบาลฯแต่มันสามารถเป็นต้นแบบให้เมืองอื่น ๆ ที่อยากส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คนได้เช่นกัน” “งานประชุมนานาชาติของสมาคมพืชสวนโลก (AIPH Spring Meeting Green City Conference 2025) ที่เชียงรายเป็นเจ้าภาพเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา เน้นย้ำถึงทิศทางการพัฒนาเมืองสีเขียว…

4 weeks ago

[The Insider]<br />พรทิพย์ จันทร์ตระกูล

“ทั้งพื้นที่การเรียนรู้ นโยบายเมืองอาหารปลอดภัย และโรงเรียนสำหรับผู้สูงวัยคือสารตั้งต้นที่จะทำให้เชียงรายเป็นเมืองแห่งสุขภาพ (Wellness City)” “กล่าวอย่างรวบรัด ภารกิจของกองการแพทย์ เทศบาลนครเชียงราย คือการทำให้ประชาชนไม่เจ็บป่วย หรือถ้าป่วยแล้วก็ต้องมีกระบวนการรักษาที่เหมาะสม ครบวงจร ที่นี่เราจึงมีครบทั้งงานส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค การรักษาเมื่อเจ็บป่วย และระบบดูแลต่อเนื่องถึงบ้าน…

4 weeks ago

[The Insider]<br />ณรงค์ศักดิ์ เตือนสกุล

“การจะพัฒนาเมือง ไม่ใช่แค่เรื่องสาธารณูปโภคแต่ต้องพุ่งเป้าไปที่พัฒนาคนและไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า การศึกษา” “แม้เทศบาลนครเชียงรายจะเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ของยูเนสโกแห่งแรกของไทยในปี 2562 แต่การเตรียมเมืองเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ว่านี้ เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นหลายสิบปี ในอดีต เชียงรายเป็นเมืองที่ห่างไกลความเจริญ ทางเทศบาลฯ เล็งเห็นว่าการจะพัฒนาเมือง ไม่สามารถทำได้แค่การทำให้เมืองมีสาธารณูปโภคครบ แต่ต้องพัฒนาผู้คนที่เป็นหัวใจสำคัญของเมือง และไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า ‘การศึกษา’…

1 month ago

[The Insider]<br />นนทพัฒ ถปะติวงศ์

“ถ้าอาหารปลอดภัยเป็นทางเลือกหลักของผู้บริโภคเชียงรายจะเป็นเมืองที่น่าอยู่กว่านี้อีกเยอะ” “นอกจากบทบาทของการพัฒนาชุมชนและสังคมสงเคราะห์ กองสวัสดิการสังคม เทศบาลนครเชียงราย ยังมีกลไกในการส่งเสริมเศรษฐกิจของพี่น้อง 65 ชุมชน ภายในเขตเทศบาลฯ โดยกลไกนี้ครอบคลุมการส่งเสริมสุขภาพ และช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมในทางอ้อมด้วยกลไกที่ว่าคือ ‘สหกรณ์นครเชียงราย’ โดยสหกรณ์ฯ นี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2560 หลักเราคือการสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน…

1 month ago

[The Citizens]<br />ชวนพิศ สุริยวงค์

“แม่อยากปลูกผักปลอดภัยให้ตัวเองและคนในเมืองกินไม่ใช่ปลูกผักเพื่อส่งขาย แต่คนปลูกไม่กล้ากินเอง” “บ้านป่างิ้ว  ตั้งอยู่ละแวกสวนสาธารณะหาดนครเชียงราย เราและชุมชนฮ่องลี่ที่อยู่ข้างเคียงเป็นชุมชนเกษตรที่ปลูกพริก ปลูกผักไปขายตามตลาดมาแต่ไหนแต่ไร กระทั่งราวปี 2548 สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองเชียงราย มาส่งเสริมให้ทำเกษตรปลอดภัย คนในชุมชนก็เห็นด้วย เพราะอยากทำให้สิ่งที่เราปลูกมันกินได้จริง ๆ ไม่ใช่ว่าเกษตรกรปลูกแล้วส่งขาย แต่ไม่กล้าเก็บไว้กินเองเพราะกลัวยาฆ่าแมลงที่ตัวเองใส่…

1 month ago

[The Citizens]<br />กาญจนา ใจปา และพิทักษ์พงศ์ เชอมือ

“วิวเมืองเชียงรายจากสกายวอล์กสวยมาก ๆขณะที่ผืนป่าชุมชนของที่นี่ก็มีความอุดมสมบูรณ์จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือป่าที่อยู่ในตัวเมืองเชียงราย” “ก่อนหน้านี้เราเป็นพนักงานบริษัทเอกชนที่ต่างจังหวัด จนเทศบาลนครเชียงรายเขาเปิดสกายวอล์กที่ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนดอยสะเก็น และหาพนักงานนำชม เราก็เลยกลับมาสมัคร เพราะจะได้กลับมาอยู่บ้านด้วย ตรงนี้มีหอคอยชมวิวอยู่แล้ว แต่เทศบาลฯ อยากทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ก็เลยต่อขยายเป็นสกายวอล์กอย่างที่เห็น ซึ่งสุดปลายของมันยังอยู่ใกล้กับต้นยวนผึ้งเก่าแก่ที่มีผึ้งหลวงมาทำรังหลายร้อยรัง รวมถึงยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนภูเขา ในป่าชุมชนผืนนี้ จริง…

1 month ago