“ผมเป็นคนไทยเชื้อสายจีนรุ่นที่ 4 ตาทวดผมเป็นซินแสที่รับดูดวงและฮวงจุ้ย สมัยก่อนบ้านตาทวดอยู่ตรงตลาดเจริญผล จะซื้อหาอะไรก็เดินมาที่ตลาดใต้ ครอบครัวผมจึงผูกพันกับตลาดใต้แต่ไหนแต่ไร ตาทวดมีลูกทั้งหมด 15 คน อาม่าผมคือหนึ่งในนั้น ซึ่งน้องสาวอาม่า หรือลูกคนที่สิบของตาทวดคือ คุณมนสินีย์ วัฒนกุลชัย ประธานมูลนิธิประสาทบุญสถาน เป็นผู้ก่อตั้งศาลเจ้าพ่อเสือ เมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา
แต่เดิมตลาดใต้จะมีศาลเจ้าอยู่สองแห่ง คือศาลเจ้าปุ่นเถ่ากง-ม่า และศาลเจ้าแม่ทับทิมของชาวไหหลำ จนช่วงก่อนปี 2560 ศาลเจ้าปุ่นเถ่ากง-ม่า ได้รับที่ดินเพิ่มเติมด้านข้าง คณะกรรมการเห็นพ้องต้องกันว่าควรจะจัดตั้งศาลเจ้าพ่อเสือเพิ่มอีกแห่งเพื่อเป็นสาธารณะกุศล ขณะที่ศาลปุ่นเถ่ากง-ม่า เป็นเหมือนศาลเจ้าที่อยู่คู่กับผู้คนในชุมชน ศาลเจ้าพ่อเสือที่เป็นสัญลักษณ์ของดาวเหนือ คอยชี้นำผู้คนที่กำลังหลงทาง เราเลยตั้งศาลเจ้าแห่งใหม่นี้ขึ้น
ผมเป็นคณะกรรมการศาลเจ้าพ่อเสือระหว่างปี 2563-2564 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่อาจารย์ธนวัฒน์เข้ามาทำโครงการเมืองแห่งการเรียนรู้ที่ตลาดใต้พอดี ทางผมก็อยากผลักดันศาลเจ้าพ่อเสือให้เป็นที่รับรู้ ขณะเดียวกันก็มีองค์ความรู้เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมและความเชื่อของชาวจีนที่อยากเผยแพร่ให้คนทั่วไปได้รับรู้ ส่วนอาจารย์ธนวัฒน์ก็อยากขับเคลื่อนเรื่องการสร้างองค์ความรู้ เพราะแถวนี้มีโรงเรียนหลายแห่งตั้งอยู่ เช่น โรงเรียนสิ่นหมิน และโรงเรียนท่ามะปราง จึงร่วมมือกัน ผมก็ช่วยเชื่อมความรู้และเครือข่าย ส่วนอาจารย์ก็นำสิ่งที่ได้มาจัดระเบียบในแง่มุมวิชาการ รวมถึงจัดกิจกรรมในย่าน
จริงๆ ผมจบบัญชีมาครับ จบมาก็สานต่อธุรกิจที่บ้าน (หจก.กิจชัยฮอนด้า) แต่ความที่โตมาในวิถีคนจีน ครอบครัวเป็นทั้งที่ปรึกษาและคณะกรรมการศาลเจ้า จึงมีความผูกพันในเชิงวัฒนธรรมอย่างมาก อย่างเมื่อไหร่ที่ศาลเจ้าปุ่นเถ่ากง-ม่าจะมีงาน เราจะรู้ได้เลย เพราะที่บ้านจะได้รับถั่วตัด เดี๋ยวคณะงิ้วจะมาเปิดทำการแสดงล่ะ และอีกไม่กี่วันเราจะต้องไปกินข้าวที่ศาลเจ้า และพอเราไปศาลเจ้าบ่อยๆ ตั้งแต่เด็ก จึงเกิดความสงสัย ทำไมภายในศาลฝั่งซ้ายต้องเป็นมังกรและน้ำ ฝั่งขวาต้องเป็นเสือ ก็ตั้งคำถาม และพยายามหาคำตอบ จนมาพบว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีที่มาและความหมาย
อย่างเรื่องเสือและมังกรในศาลเจ้าเนี่ย มันก็เชื่อมกับหลักปรัชญาร่างกายของเรา ทำไมซ้ายต้องเป็นมังกร เพราะฝั่งซ้ายของเราคือหัวใจที่ต้องเต้นตลอดเวลา เพื่อจะสูบฉีดเลือด ซึ่งก็คือกระแสน้ำ แล้วทีนี้ขวาที่เป็นเสือ เพราะต้องนิ่ง ต้องสงบ มีสมาธิ เพราะเสือมันจะตะปบเหยื่อจากข้างขวา และนั่นก็คือตับ อวัยวะที่ใหญ่ที่สุดของร่างกาย ถ้าตับเรานิ่ง ตับเราดีเนี่ย แปลว่าเราแข็งแรง อายุยืน เป็นต้น และปรัชญาเหล่านี้มันก็สามารถนำมาประยุกต์เข้ากับการใช้ชีวิตและการทำธุรกิจได้ด้วย
และก็เพราะความสนใจที่เกิดในศาลเจ้านี่แหละ ยังพาให้ผมไปสนใจดาราศาสตร์ด้วย โดยช่วงที่ผมเรียนหนังสืออยู่กรุงเทพฯ ผมมีโอกาสไปเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์อารี สวัสดี อดีตนายกสมาคมดาราศาสตร์ไทย หรือเจอผู้รู้ท่านไหนผมก็ถาม และหาหนังสือมาอ่านมากขึ้น กลายเป็นว่าควบคู่ไปกับการทำธุรกิจที่บ้านและช่วยงานศาลเจ้า ผมก็มีอีกอาชีพหนึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านโหราศาสตร์ไปพร้อมกัน
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ มันเกิดจากการที่ผมเป็นคนชอบตั้งคำถามหนึ่ง และเติบโตมาในตลาดใต้ด้วยอีกหนึ่ง พออาจารย์ธนวัฒน์เข้ามาทำเรื่องพื้นที่แห่งการเรียนรู้ในย่านนี้ผมจึงสนับสนุนเต็มที่ เพราะเอาเข้าจริง ไม่ต้องเป็นศาลเจ้าหรือย่านเก่าแก่หรอก ทุกชุมชนและสถานที่ล้วนมีองค์ความรู้แฝงฝังอยู่ ถ้าเราเป็นคนรู้จักสงสัย เราก็สามารถนำองค์ความรู้ในสถานที่นั้นๆ มาใช้ประโยชน์ได้
อย่างโครงการเมืองแห่งการเรียนรู้ ผมก็ช่วยทีมอาจารย์อธิบายเบื้องหลังของความเชื่อของชาวจีน ทำไมต้องมีเทศกาลไหว้บัวลอยช่วงเดือนธันวาคม และมันเชื่อมโยงกับเทศกาลตรุษจีนอย่างไร หรือทำไมต้องเชงเม้งช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน รวมถึงเทศกาลกินเจที่เชื่อมร้อยกับฤดูเก็บเกี่ยวของเกษตรกรในอดีต เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ เรากำลังขาดคนอธิบาย และพอไม่มีคนอธิบาย คนรุ่นใหม่เขาก็ไม่อิน เขามองว่ามันเป็นแค่ความเชื่อที่สั่งสมกันมา หรือกระทั่งมองเป็นสิ่งงมงาย ทั้งๆ ที่จริงๆ ทุกอย่างล้วนมีเหตุผลชัดเจน
นอกจากนี้ ทางศาลเจ้าก็ยังเปิดโรงงิ้วให้ทางทีมนักวิจัยเข้ามาจัดทำนิทรรศการตลาดใต้ด้วย เพราะปกติโรงงิ้วเราจะมีการจัดแสดงงิ้วแค่ปีละสองครั้ง คือตรุษจีนและสารทจีน ที่เหลือก็ปิดไว้เก็บของหรือจอดรถ ก็น่าจะดีที่มีคนเข้ามาพัฒนาเป็นพื้นที่การเรียนรู้ ทำให้เห็นว่าทั้งศาลเจ้า ตลาดใต้ และวิถีชีวิตคนที่นี่ ต่างมีรากเหง้าและประวัติศาสตร์ ซึ่งมันเป็นต้นทุนสำคัญที่จะทำให้คนรุ่นหลังนำไปต่อยอดต่อไปในอนาคต”
เรืองเกียรติ วัฒนกุลชัย
ผู้ประกอบการในย่านตลาดใต้และที่ปรึกษาด้านโหราศาสตร์จีน
ชวนอ่าน WeCitizens เมืองเชียงราย : เมืองนวัตกรรมการเกษตร Ebook ได้ที่ https://anyflip.com/jnmvd/iyvl/ Download PDF File : https://drive.google.com/.../1mQO8ZR9GTik02hfUPdS.../view... บอกเล่าเรื่องราวมุมมองเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (Livable…
คนนครวัย 30 ปีขึ้นไปน่าจะคุ้นกับร้านหนังสือ “นาคร-บวรรัตน์” บนถนนราชดำเนิน ย่านท่าวัง ที่นี่คือร้านหนังสืออิสระที่เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมอ่าน-เขียน และแสดงผลงานศิลปะ รวมถึงเป็นศูนย์รวมของนักเขียนและศิลปิน ทั้งจากกลุ่มวรรณกรรม “นาคร” เหล่านักเขียนรางวัล และศิลปินแห่งชาติที่แวะเวียนมาอยู่เสมอ จนกลายเป็นแรงขับสำคัญที่ทำให้เมืองนครมีชื่อในฐานะเมืองแห่งนักเขียนและศิลปิน อดีตร้านหนังสือแห่งนี้ตั้งอยู่ภายใน…
สมัยก่อนพ่อเป็นนายหนังตะลุงที่หวงวิชามากจนมีโอกาสเข้าเฝ้าในหลวง ร.9คำตรัสของพระองค์ท่าน เปลี่ยนความคิดพ่อไปอย่างสิ้นเชิง “สมัยก่อน นายหนังหรือผู้แสดงหลักในหนังตะลุง ส่วนใหญ่เขาจะหวงวิชามากนะครับ มันเหมือนศิลปะการแสดงที่ถ่ายทอดกันอย่างจำกัด และนายหนังแต่ละคนก็จะมีศาสตร์เฉพาะตัวในการแสดงเช่นเดียวกับคุณพ่อของผม (สุชาติ ทรัพย์สิน) แกก็เป็นคนหวงวิชามาก ๆ ใครมาขอให้สอนตอกหนังหรือเชิดหุ่นนี่ยาก กระทั่งปี 2527…
เมืองเรามีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีความพร้อม แต่พื้นที่ระดับชุมชนที่ชาวบ้านได้มาจัดกิจกรรมร่วมกัน แบบที่ไม่ต้องใช้พื้นที่ถนนสาธารณะน่ะ ยังไม่มี ถ้ามีจะดีมาก ๆ “ครอบครัวพี่แต่เดิมเป็นชาวนาอยู่นอกเขตเทศบาล กระทั่งพี่ชายและพี่สาวสอบติดโรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช แม่ก็เลยตัดสินใจย้ายเข้ามาทำงานในเมืองแม่มาปลูกบ้านอยู่แถวถนนพัฒนาการคูขวางราวปี 2521 ก่อนหน้าที่เขาจะตัดถนนเป็น 4 เลน ย่านที่เราอยู่ค่อนข้างเสื่อมโทรม เหมือนขยะใต้พรมของเมือง…
การจะทำให้เมืองเราเป็นเมืองอัจฉริยะปัจจัยสำคัญที่ต้องมีคือการมีโรงเรียนที่ตอบโจทย์การศึกษาด้านเทคโนโลยี “เวลาพูดถึงโรงเรียนในสังกัดเทศบาล หรือกระทั่งโรงเรียนวัดเนี่ย คนส่วนมากมักนึกถึงการเป็นโรงเรียนขยายโอกาส หรือทางเลือกสุดท้าย ไม่ใช่ทางเลือกหลักของผู้ปกครองส่วนใหญ่นักอย่างไรก็ตาม กับโรงเรียนทั้ง 8 แห่งในสังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโรงเรียนวัดทั้งหมดด้วย กลับแตกต่างออกไป เพราะที่นี่กลายเป็นโรงเรียนที่เด็ก ๆ ในนครต้องสอบแข่งขันเพื่อเข้าเรียน กลายเป็นโรงเรียนชั้นนำในกลุ่มปฐมวัยไปสิ่งนี้ต้องยกเครดิตให้นายกเทศมนตรีสมนึก…
แม้เราจะพึ่งพาเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือหลักแต่แก่นสารของมันคือการคิดนโยบายที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนหัวใจสำคัญจึงไม่ใช่เทคโนโลยี แต่เป็นผู้คน “หลังเรียนจบผมก็กลับมานครบ้านเกิด เข้าทำงานเป็นลูกจ้างเทศบาล ก่อนจะไต่เต้าขึ้นมาเรื่อย ๆ จนเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์แผนและนโยบายในปัจจุบันสี่ปีที่แล้ว ตอน ดร.โจ (กณพ เกตุชาติ) หาเสียงเพื่อรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราชสมัยแรก ท่านได้เสนอนโยบายเรื่องเมืองอัจฉริยะด้วยการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อทำให้เมืองน่าอยู่ พอท่านได้รับเลือกเข้ามา บทบาทของผมคือการช่วยท่านเขียนแผนดังกล่าวผมได้เรียนรู้จาก…