/

“มันไม่มีทางเลยที่ห้างสรรพสินค้าหรือศูนย์ท่ารถจะโตฝั่งเดียว แต่ย่านการค้าและชุมชนโดยรอบไม่โตไปด้วยกัน เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น อีกไม่นานย่านก็จะพบกับทางตัน”  

Start
174 views
10 mins read

“ก่อนหน้านี้เคยแต่ขับรถผ่านครับ ผมเริ่มเข้ามาและรู้จักนครสวรรค์จริงๆ ในฐานะเป็นนักวิจัยของสมาคมการผังเมือง โดยช่วยอาจารย์ฐาปนา (ฐาปนา บุณยประวิตร เลขานุการกฎบัตรไทย) จัดตั้งคณะกรรมการกฎบัตรนครสวรรค์ และเริ่มโครงการสมาร์ทซิตี้ตั้งแต่ปี 2562



จากนั้นก็ทำโครงการที่เมืองนี้มาเรื่อยๆ จนปี 2564 เราได้รับการสนับสนุนจาก บพท. ทำโครงการเมืองแห่งการเรียนรู้ควบคู่กับสมาร์ทซิตี้ ผ่านรูปแบบการทำ Smart Block บริเวณศูนย์การค้า (สถานีขนส่งผู้โดยสาร จังหวัดนครสวรรค์)

ในฐานะที่เป็นสถาปนิก ผมรับหน้าที่รับฟังข้อเสนอจากภาคส่วนต่างๆ ของเมืองนครสวรรค์ รวมถึงการนำรายละเอียดของกฎบัตรมาใช้ ก่อนจะร่วมกับชุมชนออกแบบพื้นที่ดังกล่าว ทำให้ทุกคนเห็นภาพว่าถ้าย่านนี้เป็น Smart Block จะมีหน้าตาอย่างไร สามารถอำนวยความสะดวกต่อวิถีชีวิต หรือยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนได้อย่างไร

ซึ่งใช่ ด้วยปัจจัยสำคัญที่ภายในย่านกำลังจะมีศูนย์การค้าขนาดใหญ่อย่างเซ็นทรัลมาเปิดให้บริการ ถ้าเรามีการปรับพื้นที่ให้เป็น Smart Block ทำให้ย่านมีความสะดวกต่อการเดินเท้าและเข้าถึงทุกพื้นที่ได้อย่างราบรื่น รวมถึงการมีอารยสถาปัตย์ (universal design) ก็เชื่อว่าสิ่งนี้จะช่วยหนุนเสริมผู้คนทุกๆ กลุ่ม รวมถึงธุรกิจขนาดเล็กของชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เพราะหัวใจการออกแบบ Smart Block ของเราหาใช่การปรับปรุงพื้นที่เพื่อรองรับศูนย์การค้าขนาดใหญ่ แต่เป็นการออกแบบให้ทุกคนได้ประโยชน์จากพื้นที่ และเข้าถึงการใช้งานอย่างเกื้อกูล มันไม่มีทางเลยที่ห้างสรรพสินค้าหรือศูนย์ท่ารถจะโตฝั่งเดียว แต่ย่านการค้าและชุมชนโดยรอบไม่โตไปด้วยกัน เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น อีกไม่นานย่านก็จะพบกับทางตัน

ถามว่าเราทำงานกับชาวบ้านอย่างไร อันนี้ต้องยกเครดิตให้กับทางเทศบาลนครนครสวรรค์ที่สามารถสื่อสารกับชาวบ้านในพื้นที่ให้เข้าใจในเบื้องต้น ทำให้ทุกคนพร้อมเปิดใจให้เราเข้าไปทำงานร่วมกัน ขณะเดียวกัน เราก็ไปสร้างกระบวนการการมีส่วนร่วมในแบบที่เป็นเพื่อนเข้าหาเพื่อน น้องเข้าหาพี่ หรือหลานเข้าหาลุงๆ ป้าๆ ไม่ใช่ในฐานะนักวิจัยกับแหล่งข้อมูล หรือนักออกแบบกับลูกค้า เราอธิบายความคิดเชิงวิชาการด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย และชี้ให้เห็นข้อดีและข้อเสียของการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ก่อนจะประมวลทุกความคิดเห็น เพื่อนำมาสู่แนวทางการออกแบบพื้นที่ที่ตอบโจทย์กับทุกคนมากที่สุด

ผมสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า แม้เราจะทำงานกับพื้นที่เล็กๆ แต่การได้เห็นพลวัตของความร่วมมือจากทั้งภาครัฐ ผู้ประกอบการ และภาคส่วนต่างๆ นครสวรรค์ถือเป็นเมืองที่มีความก้าวหน้าและความพร้อมจะเป็นสมาร์ทซิตี้มากกว่าหลายๆ เมืองที่เราทำมา

และใช่ครับ เมืองนี้มีความพร้อมจะเป็นต้นแบบให้เมืองอื่นๆ เข้ามาเรียนรู้และนำบทเรียนไปปรับใช้ ขณะเดียวกัน แม้โครงการวิจัยเรื่องเมืองแห่งการเรียนรู้จะแล้วเสร็จไปตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2565 แต่ด้วยกลไกที่เราร่วมกันจัดทำ โดยมีเทศบาล เครือข่ายภาคเอกชน และคณะกรรมการกฎบัตรนครสวรรค์เป็นหัวเรี่ยวหัวแรง เราจึงเห็นแนวโน้มของการพัฒนาเมืองเกิดขึ้นต่อไป แม้จะไม่มีทุนวิจัยมาสนับสนุนแล้วก็ตาม

และอย่างที่บอกตอนต้น ก่อนหน้านี้ผมเคยแต่ขับรถผ่านนครสวรรค์ เดินทางจากกรุงเทพฯ ไปทางภาคเหนือ แต่หลังจากที่ทำงานวิจัยที่นี่แล้วเสร็จ ผมมองเห็นนครสวรรค์เป็นจุดหมายปลายทาง หรือ destination ของการพัฒนาในหลายๆ มิติอย่างน่าสนใจ”  

ฐปนันท์ งามบุษรัตน์
นักวิจัยสมาคมการผังเมืองไทยและกฎบัตรไทย

กองบรรณาธิการ

ในปีพ.ศ.2563-2564 หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ได้สนับสนุนและผลักดันการพัฒนาเมืองในประเทศไทยเพื่อพัฒนาเมืองแห่งการเรียนรู้ (Learning City) โดยเริ่มดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมแล้วทั้งหมด 18 เมือง 20 ชุดโครงการ และ 41 ชุดโครงการย่อย