“เราเติบโตมาในสังคมมุสลิม เรียนโรงเรียนสอนศาสนา และใช้ชีวิตประจำวันท่ามกลางบรรยากาศที่ค่อนข้างเคร่งครัด ขัดแย้งกับตัวตนที่เป็น LGBT ของเรา
ตอนเป็นวัยรุ่นเราคิดมาตลอดว่าสิ่งที่เราเป็นคือปมด้อย เราก็พยายามกลบปมด้อยด้วยการตั้งใจเรียน เป็นตัวแทนโรงเรียนไปสอบแข่งขันที่นั่นที่นี่ และทำกิจกรรมสม่ำเสมอ เคยคิดว่าถ้าเราเรียนเก่ง คนที่คอยตั้งแง่กับเพศสภาพก็อาจจะลืมตัวตนที่แท้จริงของเรา ซึ่งเหนื่อยนะที่ต้องทำแบบนี้ เป็นความเคยชินในวัยเด็กที่ดูตลกร้ายมากๆ
จนได้มารู้จักพี่บอล (เอกรัตน์ สุวรรณรัตน์) ในช่วงที่เราเรียนมหาวิทยาลัยนี่แหละ ที่ทำให้เรากล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง พี่บอลเป็นเหมือนแม่ที่คอยให้กำลังใจลูกสาวอย่างพวกเราทุกคนไม่ว่าเราจะนับถือศาสนาอะไร เราเหมือนเจอเพื่อนจริงๆ ที่คอยสนับสนุน และกระตุ้นให้พวกเรานำสิ่งที่เรามีเปลี่ยนเป็นพลังงานบวกส่งต่อให้คนอื่น จากที่เราเคยชอบทำกิจกรรมซึ่งส่วนหนึ่งมาจากเพราะอยากกลบสิ่งที่คิดว่าเป็นปมด้อย ก็เปลี่ยนมาเป็นคนที่อยากร่วมกิจกรรมเพราะความสนุก และเห็นถึงผลกระทบเชิงบวกต่อคนอื่นๆ ในกิจกรรมนั้นๆ ได้จริง ก็เลยร่วมงานกับพี่บอลหลายงาน รวมถึงล่าสุดกับงานยะลาสตอรี่ ที่เราเป็นผู้ประสานงานของโครงการ
เราชอบการประสานงาน ชอบพูดคุยกับผู้คน และชอบที่ได้เรียนรู้ ยิ่งเมื่อเรามีความมั่นใจในตัวเอง และพบว่าผู้คนในยะลาส่วนใหญ่ก็พร้อมเปิดใจพูดคุยกับเรา แตกต่างจากภาพที่เราคิดในสมัยก่อนซึ่งทำให้เรามีความกดดันไปเอง หลังจากงานยะลาสตอรี่ เราได้งานประจำเป็นเจ้าหน้าที่รับฟังและประสานงานชุมชนของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ซึ่งดูแลด้านความมั่นคงทางอาหารในพื้นที่จังหวัดยะลา งานนี้ทำให้เรามีโอกาสลงพื้นที่ไปเก็บข้อมูลและพูดคุยกับพี่ๆ น้องๆ ลุงๆ ป้าๆ ที่อยู่ในห่วงโซ่ของการผลิตอาหารกว่า 60 ชุมชน
เราชอบงานที่เราทำอยู่มาก เพราะอย่างที่บอกว่าเราชอบพูดคุยกับผู้คน การพูดคุยแลกเปลี่ยนทำให้เราได้ความรู้หรือได้เรียนรู้ในวิถีและวัฒนธรรมของชาวบ้านที่หลายพื้นที่ก็แตกต่างจากเรามาก ขณะเดียวกันงานที่เราทำก็มีส่วนในการพัฒนาสังคม จากการนำข้อมูลที่เราได้มาสังเคราะห์เพื่อส่งต่อไปยังหน่วยงานที่ช่วยหนุนเสริมการพัฒนาหรือแก้ปัญหาด้านความมั่นคงทางอาหารของจังหวัดยะลาต่อไป
และยิ่งมาได้ทำงานนี้ รวมถึงงานยะลาสตอรี่ ทำให้เราประทับใจในวิถีของคนยะลา เราไม่รู้ว่าเมืองอื่นๆ เป็นอย่างไร แต่กับยะลา เมื่อมีกิจกรรมอะไรเกิดขึ้นในเมือง ผู้คนดูมีความกระตือรือร้นอยากเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงาน เหมือนว่าคนยะลามีความรักและความรู้สึกในการเป็นเจ้าของเมืองร่วมกัน ที่เห็นได้ชัดคือจากวงน้ำชาตามร้านต่างๆ ที่เราจะเห็นผู้คนนั่งจิบน้ำชาและคอยพูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อสังคมและเมืองเราอยู่เสมอ สิ่งนี้ยิ่งปรากฏชัดผ่านการทำงานยะลาสตอรี่ ที่เมื่อเราติดต่อไปขอข้อมูลจากใคร ทุกคนก็พร้อมจะช่วยเราอย่างเต็มที่จนเราเองรู้สึกเกรงใจเอง (ยิ้ม)
ถามว่าปัญหายะลาตอนนี้คืออะไร นอกจากความมั่นคงทางอาหาร และการที่เกษตรกรยังไม่สามารถสร้างรายได้จากการผลิตมากเท่าที่ควร เราคิดว่ายะลายังมีความเหลื่อมล้ำในเชิงกายภาพหรือในแง่มุมสาธารณูปโภคอยู่พอสมควร สังเกตดูว่าถ้าเข้ามาในตัวเมือง เราจะเห็นสิ่งอำนวยความสะดวกครบหมด เมืองสวยและน่าอยู่ แต่พอออกนอกเมืองไปยังพื้นที่ชนบท เราจะเห็นถึงความเหลื่อมล้ำของการพัฒนาอย่างชัดเจน ก็คิดว่าถ้าทุกส่วนมีการแก้ไขตรงนี้ได้ เมืองก็น่าจะดีขึ้นมาก
เรามีแผนไกลๆ ว่าจะเก็บประสบการณ์จากงานที่ทำตอนนี้ให้ได้เยอะที่สุด และลองย้ายไปทำงานและเรียนรู้ในเมืองอื่นๆ ก่อน เราชอบเรียนรู้ อยากเก็บประสบการณ์และความรู้ให้มากๆ คิดเอาไว้ว่าเราอาจต้องเติบโตจากที่อื่น เพื่อสุดท้ายจะได้กลับมาที่ยะลาอีกครั้ง และนำทั้งหมดที่เราสั่งสม มาช่วยพัฒนาบ้านเกิดของเราต่อไป”
ตัรมีซี อนันต์สัย
เจ้าหน้าที่รับฟังและประสานงานชุมชนของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP)
“โจทย์สำคัญ คือ เราจะทำอย่างไรให้ผู้คนมีบทบาทในการพัฒนาเมืองน่าอยู่ Application Line-OA ถูกเลือกมาตอบโจทย์นี้ ให้ทุกคนช่วยกันอัปเดต ข้อมูลเมือง ร้องเรียน และแจ้งเตือนเหตุต่าง ๆ” นคร 48 ชั่วโมงนครศรีธรรมราชกับภารกิจเมืองอัจฉริยะ 99,918…
ผศ. ดร.มณีรัตน์ วงษ์ซิ้มหัวหน้าโครงการโปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดCIAP | นายฉัตรกุล ชื่นสุวรรณกุลที่ปรึกษาโครงการ CIAP ประธานกรรมาธิการสถาบันพัฒนาเมือง และอดีตรองนายกเทศบาลเมืองสระบุรี ในงาน CITY SOLUTION DAY : เปิดเมือง เปลี่ยนเมือง สู่อนาคตเมืองน่าอยู่27 กันยายน 2568 ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์…
การบรรยายในหัวข้อ “ภาพรวมการขับเคลื่อนงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเมืองน่าอยู่และการกระจายศูนย์กลางความเจริญของหน่วย บพท.” โดย รศ.ดร.ปุ่น เที่ยงบูรณธรรม รองผู้อำนวยการฝ่ายแผนและยุทธศาสตร์องค์กร หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ในงาน City Solution Days: เปิดเมือง เปลี่ยนเมือง สู่อนาคตเมืองน่าอยู่ วันที่…
“ในฐานะที่เป็นนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด และในฐานะนายกสมาคมเทศบาลนครและเมือง ซึ่งในสมาคมเรามีสมาชิกที่ประกอบไปด้วย เทศบาลนครประมาณ 35 แห่ง และ เทศบาลเมืองประมาณ 220 แห่ง ผมอยากเชิญชวนพวกเรามองเมืองของเราไปด้วยกัน โจทย์วันนี้ของประเทศไทย ถ้าให้เปรียบเทียบก็เหมือนเราเป็นคนที่มีจมูกรูเดียว พึ่งพาส่วนกลาง และเดินทางมาอย่างนี้มาโดยตลอด จนมีการกระจายอำนาจเมื่อปี 2540 แต่ก็เป็นการกระจายอํานาจค่อนข้างที่จะเป็น ลูกครึ่งลูกผสม คือมีรัฐบาลคอยกําหนดกรอบทั้งการปฏิบัติงานและงบประมาณ ท้องถิ่นก็ทำงานในระดับพื้นที่ไป จริงอยู่ว่าเรื่องนี้จะไม่ได้เป็นอุปสรรคปัญหาต่อการพัฒนาเชิงพื้นที่เท่าไหร่ โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้บริหารท้องถิ่นที่มีความตั้งใจจริง และแสวงหาโอกาสที่อยากจะพัฒนาบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองอย่างตลอดเวลา วันนี้สมาคมเทศบาลนครและเมือง มีโอกาสรวมตัวกันในการที่จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ แล้วหาช่องทางในการที่จะส่งเสริมต่อยอด ซึ่งในปีพ.ศ.2567 ก็เกิดความร่วมมือกับทาง บพท.…
ชวนอ่าน WeCitizens เมืองเชียงราย : เมืองนวัตกรรมการเกษตร Ebook ได้ที่ https://anyflip.com/jnmvd/iyvl/ Download PDF File : https://drive.google.com/.../1mQO8ZR9GTik02hfUPdS.../view... บอกเล่าเรื่องราวมุมมองเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (Livable…
คนนครวัย 30 ปีขึ้นไปน่าจะคุ้นกับร้านหนังสือ “นาคร-บวรรัตน์” บนถนนราชดำเนิน ย่านท่าวัง ที่นี่คือร้านหนังสืออิสระที่เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมอ่าน-เขียน และแสดงผลงานศิลปะ รวมถึงเป็นศูนย์รวมของนักเขียนและศิลปิน ทั้งจากกลุ่มวรรณกรรม “นาคร” เหล่านักเขียนรางวัล และศิลปินแห่งชาติที่แวะเวียนมาอยู่เสมอ จนกลายเป็นแรงขับสำคัญที่ทำให้เมืองนครมีชื่อในฐานะเมืองแห่งนักเขียนและศิลปิน อดีตร้านหนังสือแห่งนี้ตั้งอยู่ภายใน…