WeCitizen : เมืองนครสวรรค์

ชวนอ่าน WeCitizens เมืองนครสวรรค์ : เมือง Esports น่าอยู่ที่ชาญฉลาด Ebook ได้ที่ https://anyflip.com/jnmvd/yevj/ Download PDF File : https://drive.google.com/…/1mljGnwRM8P5LXWD…/view… บอกเล่าเรื่องราวมุมมองเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (Livable & Smart City) ผ่านการขับเคลื่อนเมือง Esports ของคนเมืองนครสวรรค์ นำโดย จิตตเกษมณ์ นิโรจน์ธนรัฐ นายกเทศมนตรีนครนครสวรรค์ (ดำรงตำแหน่งนายกฯ ครั้งล่าสุด มีนาคม 2564 –

[The Mayor]
จิตตเกษมณ์ นิโรจน์ธนรัฐ

“เรามีโครงสร้างพื้นฐานในการเป็นสมาร์ทซิตี้พร้อมแต่ที่ผ่านมา เรายังไม่มีกลไกในการพัฒนาบุคคลในกรอบนี้และอีสปอร์ตจะกลไกหนึ่ง ที่เริ่มต้นจากเด็กและเยาวชน” ไม่เพียงแต่เทศบาลนครนครสวรรค์จะเป็นหนึ่งในเทศบาลแห่งแรกที่ได้รับการคัดเลือกโดย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ให้เป็น เมืองอัจฉริยะ (Smart City) ตั้งแต่ปี 2564 หากแต่ในปัจจุบัน เทศบาลนครซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของภาคกลางตอนบน ยังคงเดินหน้าพัฒนาเมืองภายใต้กรอบเมืองอัจฉริยะ ที่มุ่งสู่ความยั่งยืน ควบคู่ไปกับการยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เปลี่ยน “เมืองต้องผ่าน” ให้กลายเป็น “เมืองต้องแวะ” ทั้งการปักหมุด “พาสาน” แลนด์มาร์กแห่งใหม่ ที่นำไปสู่แผนการจัดตั้ง อุทยานวัฒนธรรมต้นน้ำเจ้าพระยา และการสร้างสะพานคนเดินเชื่อมจากอุทยานฯ สู่ย่านเมืองเก่า เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากและการเดินเท้า การพัฒนา

THAILAND LIVABLE & SMART CITY MAP

  • LIVABLE & SMART CITY
  • LIVABLE , SMART & LEARNING CITY
  • LEARNING CITY

Topics

Criticism

Ius ea rebum nostrum offendit. Per in recusabo facilisis, est ei choro veritus gloriatur. Has ut dicant fuisset percipit

World

Ius ea rebum nostrum offendit. Per in recusabo facilisis, est ei choro veritus gloriatur. Has ut dicant fuisset percipit

Pandemic

Ius ea rebum nostrum offendit. Per in recusabo facilisis, est ei choro veritus gloriatur. Has ut dicant fuisset percipit

Finance

Ius ea rebum nostrum offendit. Per in recusabo facilisis, est ei choro veritus gloriatur. Has ut dicant fuisset percipit

Criticism

Join our Mailing List

We hate spams like you do

Satire

Latest

ถ้าเราไม่สมาร์ทก่อน เทศบาลยังไม่
สมาร์ทระบบราชการยังไม่สมาร์ท คนหาดใหญ่ก็จะไม่เห็นว่าสมาร์ทซิตี้มีประโยชน์ตรงไหน

“คณะผู้บริหารเทศบาลนครหาดใหญ่กำหนดทิศทางการพัฒนาไว้ 3 เรื่อง คือการทำให้หาดใหญ่เป็นเมืองน่าอยู่ น่าเที่ยว และน่าลงทุน ด้วยเหตุนี้ เมืองเราจึงขับเคลื่อนด้วย 3 กลไกหลัก ได้แก่ สมาร์ทซิตี้ (smart city) กรีนซิตี้ (green city) และเลิร์นนิ่งซิตี้ (learning city) หรือเมืองแห่งการเรียนรู้ ทำไมเมืองต้องสมาร์ท

ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่ามากที่สุดของเมืองคือคุณภาพชีวิตของผู้คน ถ้าคนมีคุณภาพชีวิตที่ดี และเมืองมีสุนทรียะ คุณแทบไม่ต้องโปรโมทอะไรมากเลย การท่องเที่ยวจะตามมาเอง

“ผมเรียนกรุงเทพฯ จบมา ก็ทำงานเป็นสถาปนิก ก่อนจะเปิดบริษัทรับจัดอีเวนท์และคอนเสิร์ต ทำอยู่พักใหญ่ แล้วรู้สึกเบื่อกรุงเทพฯ ประกอบกับที่อยากกลับมาดูแลแม่ด้วย เลยตัดสินใจปิดบริษัท กลับมาเริ่มใหม่ที่หาดใหญ่ พอมาอยู่บ้าน ผมก็ทำงานคล้ายๆ กับที่กรุงเทพฯ ทำบริษัทออกแบบ และเปิดอีกบริษัทไว้ทำอีเวนท์ ทำอย่างนี้มาได้ประมาณ 2-3 ปี จนมีโอกาสไปเยี่ยมเยียน a.e.y. space ของพี่เอ๋ (ปกรณ์

เราก็ต้องมาดูกันต่อว่าทางโครงการจะได้รับการสนับสนุนให้ไปต่อได้มากขนาดไหน แต่ที่ผ่านมา โครงการมีความก้าวหน้าที่น่าดีใจนะ ทางเทศบาลก็พร้อมรับข้อเสนอไปพัฒนาต่อในอนาคต

“หาดใหญ่มีคลองระบายน้ำอยู่สองแห่ง คลองอู่ตะเภาทางทิศตะวันตกของเมือง และคลองเตยทางทิศตะวันออก ทั้งสองแห่งทำหน้าที่ระบายน้ำจากในเมืองออกสู่ทะเล โดยคลองที่ตัดผ่านย่านใจกลางเมือง และอยู่คู่กับวิถีคนหาดใหญ่ จนคนส่วนใหญ่เคยชินจึงไม่ได้เห็นว่ามันมีความสำคัญอะไรคือคลองเตย คลองนี้เป็นกลไกหนึ่งที่ทำให้ตัวเมืองไม่เกิดน้ำท่วมเมื่อฝนตกหนัก ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมา มีหลายครัวเรือนรุกล้ำพื้นที่ริมคลอง หรือหนักเข้าก็มีบางคนเอาขยะไปทิ้งในนั้น ทำให้ไม่เพียงน้ำในคลองเน่าเสีย แต่ขยะยังไปอุดตันทำให้คลองบางช่วงสูญเสียศักยภาพในการระบายน้ำอีก พี่เป็นหนึ่งในทีมงานของพี่เจี๊ยบ (สิทธิศักดิ์ ตันมงคล, หัวหน้าโครงการคลองเตยลิงก์) โดยเป็นตัวแทนของหน่วยงานรัฐซึ่งก็คือเทศบาลนครหาดใหญ่ ก็ช่วยดูเรื่องผังเมือง และเป็นตัวกลางเชื่อมหน่วยงานหรือชุมชนต่างๆ เข้ากับโครงการ เพราะต้องเข้าใจว่าพอทำงานกับหลายชุมชน

หาดใหญ่เคยเป็นเมืองที่พระอาทิตย์ไม่เคยตก เป็นเมืองที่มีความสว่างรุ่งโรจน์ตลอดเวลา และเราทำให้เมืองกลับมาเป็นแบบนั้นได้ แถมยังทำได้อย่างยั่งยืนกว่าด้วย

“ผมย้ายมาอยู่หาดใหญ่ตั้งแต่ ป.4 มีแค่ช่วงเรียนมหาวิทยาลัยที่ไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ก็อยู่ทันเห็นช่วงที่หาดใหญ่รุ่งเรืองมากๆ ในแบบที่ถนนใจกลางเมืองคับคั่งไปด้วยผู้คนทั้งวันทั้งคืนมาแล้ว แต่ภาพแบบนี้ไม่มีในหาดใหญ่มาร่วมๆ 20 ปีแล้ว และสถานการณ์มันก็ดร็อปลงเรื่อยๆ จนมาตกสุดช่วงโควิด-19 ก่อนที่จะมีแนวโน้มกลับมาดีขึ้นในช่วงเวลานี้ ถ้าเทียบหาดใหญ่ยุคหลังโควิดกับช่วงเวลาของวัน ผมคิดว่าเราอยู่ราวๆ ตี 4 คือสำหรับคนที่นี่ยังเห็นว่ามืดอยู่ แต่คนที่อยู่ในแวดวงธุรกิจเริ่มจะเห็นแนวโน้มแล้วว่าอีกสัก 2 ชั่วโมงก็เช้า อย่างไรก็ดี การเปรียบเทียบนี้เป็นแค่ความรู้สึก เราต่างไม่รู้ว่าเป็นตี

เราจะค้าขายกันอย่างเดียวเหมือนเมื่อก่อน หรือจะขายของไปด้วยและหาวิธีทำมาหากินอย่างยั่งยืนในอนาคตไปด้วย ก็เป็นหน้าที่ของคนรุ่นคุณไปคิดต่อแล้ว

“ปู่ผมทำนาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ยังไม่มีการสร้างสถานีรถไฟโคกเสม็ดชุน หรือชุมทางหาดใหญ่อย่างทุกวันนี้ ตอนผมเป็นนักเรียน เมืองหาดใหญ่ยังมีถนนหน้าสถานีรถไฟแค่ 3 สาย ซึ่งตอนแรกยังไม่มีชื่อด้วยซ้ำ เราเลยเรียกกันว่าถนนสาย 1 สาย 2 และสาย 3 บ้านเรือนสมัยนั้นเป็นเรือนไม้อยู่ห่างๆ กัน พ้นจากถนน 3 สายนี้ไปก็เป็นทุ่งนาแล้ว สมัยก่อนรถไฟที่วิ่งผ่านสถานีหาดใหญ่ส่วนหนึ่งจะใช้สำหรับขนปศุสัตว์ไปขายที่มาเลเซีย ข้ามอุโมงค์เลยพื้นที่ที่ตอนนี้คือถนนศรีภูวนาถไป เคยเป็นด่านกักสัตว์เพื่อให้สัตวแพทย์ตรวจก่อนส่งออก เพื่อนร่วมชั้นของผมที่โรงเรียนมอชาย

อาตมาแก่แล้ว จึงไม่ได้มีมุมมองอะไรต่ออนาคตของเมืองนัก แต่ในฐานะที่เราอยู่ที่นี่ ก็พร้อมต้อนรับญาติโยมที่มาวัด ทั้งมาไหว้พระ หรือมาปรับทุกข์ ก็จะช่วยเท่าที่อาตมาจะช่วยได้

“อาตมาเป็นคนสมุทรสาคร บวชอยู่กรุงเทพฯ ได้ 6 ปี ช่วงปี พ.ศ. 2514 พระอาจารย์ว่วยจง เจ้าอาวาสวัดฉื่อฉาง ถึงแก่มรณภาพ อาตมาจึงเดินทางมาหาดใหญ่เป็นครั้งแรกเพื่อร่วมงานศพ และช่วยดูวัดนี้ต่อ จนปี พ.ศ. 2517 เขาก็ให้เป็นเจ้าอาวาส จึงต้องอยู่ที่วัดแห่งนี้ไม่ได้ไปไหนตั้งแต่นั้น ฉื่อฉางเป็นคำภาษาจีนเพี้ยนมาจาก ‘ฉื่อซ่านซื่อ’ แปลว่าเมตตากรุณา แต่เดิมที่นี่เป็นศาลเจ้าลื่อโจ๊ว

ผมไม่คิดว่าต่อไปหาดใหญ่จะเป็นแค่เมืองการค้า เพราะจากที่ผมเข้าไปสัมผัสในหลายชุมชน ผมเชื่อมั่นว่าคนหาดใหญ่มีศักยภาพที่จะพลิกเมืองได้

“ผมสอนหนังสือในเมืองหาดใหญ่มา 20 กว่าปีแล้ว ผ่านการทำงานวิจัยหลากหลายเรื่อง แต่เกือบทั้งหมดจะอยู่ในพื้นที่ของอำเภอต่างๆ ในจังหวัดสงขลา โครงการเมืองแห่งการเรียนรู้ เป็นโครงการแรกที่ผมได้ทำในพื้นที่เทศบาลนครหาดใหญ่ ผมเข้ามาทำโครงการนี้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 และรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย เมื่อพบว่าที่ผ่านมาแทบไม่ค่อยมีงานวิจัยเกี่ยวกับชุมชนและการพัฒนาเมืองเกิดขึ้นในพื้นที่เทศบาลเท่าไหร่ ทั้งนี้ แม้จะมีอุปสรรคสำคัญคือการระบาดของโควิด-19 แต่ด้วยเนื้อหาของงานวิจัยที่เราทำ ซึ่งมีเป้าหมายจะเสริมสร้างทักษะใหม่ๆ แก่ผู้ประกอบการ โครงการจึงตอบโจทย์กับความต้องการของผู้คนในเวลานั้นพอดี ผมรับผิดชอบโครงการย่อยที่ 2 เรื่องนวัตกรรมการเรียนรู้โดยทำในพื้นที่

ผมตั้งใจให้ร้านนิยมรสเป็นร้านของเมืองหาดใหญ่ คุณจะมากินปลาเต๋าเต้ยหม้อไฟและเมนูอื่นๆ ของเราได้ที่หาดใหญ่เท่านั้น

“พ่อกับแม่ผมเปิดร้านนิยมรส ปี พ.ศ. 2512 เมื่อก่อนร้านอยู่ในบ้านไม้ห้องเดียวในย่านใจกลางเมืองหาดใหญ่ พ่อเป็น เถ่าชิ่ว หรือพ่อครัวหลัก ส่วนแม่เป็นผู้ช่วยเรียกว่า ยีชิ่ว ทำมาได้สัก 10 ปี พ่อก็ย้ายมาเปิดที่ตึกบนถนนธรรมนูญวิถีร้านนี้ เพราะมีพื้นที่มากกว่า ผมเกิดที่บ้านหลังนี้ ก็ช่วยพวกเขาเสิร์ฟอาหารและรับลูกค้าตั้งแต่เด็ก กลับจากโรงเรียนมา ก็ใส่ชุดนักเรียนเสิร์ฟเลย (หัวเราะ) สมัยก่อนไม่คิดว่าจะมาสานต่อกิจการนี้เลยครับ จริงๆ

ถามว่าทำไมเราต้องมาทำงานตรงนี้ด้วยใช่ไหม? จริงอยู่ บริษัทเราอยู่คู่กับคนหาดใหญ่มา 60 ปีแล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะใช้ประสบการณ์และ know how ที่มีช่วยเมืองที่เราอาศัยอยู่บ้าง

“บริษัท โพธิ์ทองขนส่ง (2505) จำกัด เริ่มต้นปี พ.ศ.​2505 ตั้งแต่รุ่นคุณปู่ค่ะ เราเป็นบริษัทที่ได้สัมปทานเดินรถเส้นทางระหว่างอำเภอหาดใหญ่ไปยังอำเภอเมืองสงขลา เริ่มมาตั้งแต่ยังเป็นรถบัสความยาว 12 เมตร ก่อนจะปรับชนิดของรถไปตามยุคสมัย โดยวิ่งอยู่สองเส้นทางคือสายเก่าและสายใหม่ ย้อนกลับไปเมื่อ 60 ปีที่แล้ว สมัยนั้นคนส่วนใหญ่ยังไม่มีรถส่วนตัว กิจการเดินรถของเราจึงเฟื่องฟูมาก เพราะผู้คนต้องเดินทางไป-กลับสองเส้นทางนี้ตลอด เราทำรถบัสขนาดใหญ่ที่บางรอบจุคนเกือบร้อย ออกทุกๆะ 5

1 49 50 51 52 53 76

Video